น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ถอนร่างกฎกระทรวงที่ออกตามความใน พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน พ.ศ.2542 เนื่องจากร่างกฎกระทรวงฉบับนี้กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจเป็นทรัสตีและผู้ให้บริการระบบคราวด์ฟันดิง เป็นสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเพื่อป้องกันนักลงทุนใช้ช่องทางฟอกเงินผิดกฎหมาย
"ความจำเป็นที่ต้องเสนอถอนร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ เนื่องจากคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) ได้ตรวจพิจารณาแล้วเห็นว่า การกำหนดให้ทรัสตีเป็นสถาบันการเงินตามกฎหมายฟอกเงินจะทำให้ต้องมีหน้าที่เช่นเดียวกับสถาบันการเงิน ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาระแก่ผู้ประกอบการเกินความจำเป็น" น.ส.รัชดา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจดังกล่าวยังคงมีความเสี่ยงที่อาจถูกใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) จึงแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) โดยกำหนดให้ทรัสตีตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุนเป็นผู้มีหน้าที่รายงานการทำธุรกรรมต่อ ปปง.ด้วย
ส่วนการประกอบธุรกิจคราวด์ฟันดิงเป็นธุรกิจใหม่ที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) สามารถระดมทุนเพื่อนำไปใช้ในการประกอบธุรกิจ ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีระบบการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจและการลงทุนในระบบคราวด์ฟันดิง โดยให้มีการระดมเงินลงทุนในมูลค่าที่ไม่สูงจนเกินไป และยังไม่ปรากฏข้อมูลว่ามีการฟอกเงินผ่านธุรกิจประเภทนี้
"เพื่อไม่ให้การดำเนินธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้รับผลกระทบจนถึงขั้นต้องหยุดชะงัก จึงเห็นควรชะลอการกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการระบบคราวด์ฟันดิงเป็นสถาบันการเงินไว้ก่อน หากในอนาคต ปปง. เห็นว่ามีความจำเป็นต้องให้ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการระบบคราวด์ฟันดิงมีหน้าที่รายงานการทำธุรกรรมต่อ ปปง. ก็สามารถทำได้ตาม ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของกฤษฎีกา" น.ส.รัชดา กล่าว