นายอลิสแตร์ ดาร์ลิ่ง รมว.คลังอังกฤษเรียกร้องให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เข้ามามีบทบาทในตลาดการเงินทั่วโลกมากขึ้น โดยแนะนำให้ไอเอ็มเอฟลดการติดตามดูสถานการณ์ในแต่ละประเทศและหันมาให้ความสนใจกับปัจจัยเสี่ยงในตลาดและระบบการเงินอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ นายดาร์ลิ่งยังเรียกร้องให้ไอเอ็มเอฟทำงานร่วมกับคณะกรรมการกำกับดูแลด้านการธนาคาร เพื่อพัฒนาระบบเตือนภัยวิกฤตการเงินล่วงหน้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
"ไอเอ็มเอฟควรให้ความสำคัญกับการติดตามและตรวจสอบธุรกิจการเงินให้ใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อดูว่าสถานการณ์ในตลาดการเงินมีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมอย่างไรบ้าง" นายดาร์ลิ่งกล่าว
เมื่อปีที่แล้ว ไอเอ็มเอฟคาดไม่ถึงว่าจะวิกฤตการณ์ในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ไอเอ็มเอฟ) จะลุกลามจนสร้างความเสียหายในวงกว้าง ซึ่งนายดาร์ลิ่งกล่าวว่า "ทุกฝ่ายควรจดจำบทเรียนที่เกิดขึ้นกับตลาดเมื่อปีที่แล้ว"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายดาร์ลิ่งจะเข้าร่วมประชุม G7 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันในวันนี้และจนถึงช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการป้องกันตลาดสินเชื่อให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์รุนแรง หลังจากตลาดสินเชื่อตกอยู่ในภาวะตึงตัวอย่างหนักตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว จนเป็นเหตุให้สถาบันการเงินทั่วโลกขาดทุนและปรับลดสินทรัพย์ทางบัญชีเป็นวงเงินรวม 2.32 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาในตลาดซับไพรม์ของสหรัฐ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--