S&P ปรับเพิ่มอันดับเครดิตตราสารหนี้ไต้หวันให้แนวโน้มมี"เสถียรภาพ"

          สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ได้ปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวของไต้หวันจาก "เชิงลบ" มาอยู่ในระดับ "มีเสถียรภาพ" โดยอ้างถึงความเสี่ยงด้านความตึงเครียดของไต้หวันกับจีนที่ปรับตัวลดลง ขณะที่สถานะทางการเงินของรัฐบาลปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา     
          นอกจากนี้ S&P ยังได้คงอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ไต้หวันในระยะยาวที่ "AA-" และคงอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นที่ "A-1+"
          S&P ระบุว่า เมื่อช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตัวเลขขาดดุลบัญชีของรัฐบาลไต้หวันเริ่มปรับตัวลดลง ซึ่งได้ช่วยชดเชยตัวเลขหนี้สินของภาครัฐที่ไต่ระดับสูงขึ้น นอกจากนี้ เสถียรภาพทางการเมืองยังช่วยขจัดความเสี่ยงในระยะสั้นหลังจากที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีและสภานิติบัญญัติ
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานโดยอ้างการคาดการณ์ของ S&P ว่า ปริมาณเงินสำรองต่างประเทศของไต้หวันจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2.90 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปลายปี 2551 ขณะที่ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดโดยเฉลี่ยซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับ 7% ของ GDP ในปีที่ผ่านมาได้ช่วยให้อัตราดอกเบี้ยของไต้หวันยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งกลายเป็นปัจจัยที่กระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ และช่วยบรรเทาภาระของดอกเบี้ยที่ภาครัฐแบกรับไว้ รวมทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านเงินทุนของธนาคารหลายแห่งในไต้หวัน
         อย่างไรก็ตาม ภาระหนี้สินที่รัฐบาลไต้หวันแบกรับอยู่นั้นยังคงเป็นจุดอ่อนสำคัญที่มีผลต่ออันดับความน่าเชื่อถือ โดยตัวเลขหนี้สินทั่วไปของรัฐบาลคาดว่าจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 41.4% ของตัวเลข GDP ในปลายปีนี้ ซึ่งสูงกว่าประเทศอื่นๆที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ "AA"