นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 32.99 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.06 บาท/ดอลลาร์
ช่วงเช้า เงินบาทอ่อนค่าจากปัจจัยที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% ซึ่งทำให้มีแรงเทขายยูโรและปอนด์ ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น แต่ระหว่างวันเงินบาทปรับแข็งค่า หลังจาก อ่อนค่าไปแตะระดับ 33 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีแรงขายดอลลาร์ออกมา
"ระหว่างวัน เงินบาทกลับมาแข็งค่าค่อนข้างเร็ว เพราะมี flow ฝั่งขายดอลลาร์ออกมา หลังจากที่บาทขึ้นไปแตะระดับ 33 บาทกว่า" นักบริหารเงิน ระบุ
คืนนี้ ตลาดติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือนธ.ค.
นักบริหารเงิน คาดว่า ต้นสัปดาห์หน้า เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.85 - 33.15 บาท/ดอลลาร์ ตลาดรอปัจจัย สำคัญในประเทศ คือ การรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค.
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 128.56 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 128.70 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0926 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0893 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,688.36 จุด เพิ่มขึ้น 5.78 จุด (+0.34%) มูลค่าการซื้อขาย 58,565 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,198.22 ลบ.(SET+MAI)
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่าย
- ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (2 ก.พ.) ว่า สหภาพยุโรป (EU) จะดำเนินมาตรการ
- จีน เพิ่มการลงทุนตามแนวเส้นทางสายไหมใหม่ หรือ โครงการ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" (BRI) สู่ระดับสูงสุด นับตั้งแต่
- ฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่ เตรียมยกเลิกการจำกัดจำนวนนักเดินทางข้ามพรมแดน และยกเลิกการขอผลตรวจโควิด เพื่อ
- รองประธานบริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐสั่งแบนคริปโทเคอร์เรนซี เช่นเดียวกับที่จีนดำเนินการ
- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ สัปดาห์หน้า ได้แก่ ยอดส่งออก-นำเข้า-ดุลการค้า เดือนธ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาค
การค้าส่งเดือนธ.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์