นักวิเคราะห์คาดตลาดหุ้นในเอเชียมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในกรอบบวกลบแคบๆสัปดาห์หน้า เนื่องจากนักลงทุนคงจะระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐ รวมทั้งผลประกอบการรายไตรมาสของธนาคารเพื่อการลงทุนรายใหญ่ๆ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบ่งชี้ว่า วิกฤตตลาดสินเชื่อได้สิ้นสุดลงแล้วหรือไม่
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียปรับตัวลงในสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในสหรัฐเกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะร่วงลงเป็นเวลานาน
นอกจากนี้ รายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก็ยิ่งเพิ่มแรงกดดันในตลาด เพราะไอเอ็มเอฟระบุว่า ภาวะขาดทุนจากวิกฤตซับไพรม์อาจจะสูงถึงเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากผลกระทบจากวิกฤตซับไพรม์ได้ลุกลามไปยังเศรษฐกิจทั่วโลก
ฟูมิยูกิ นากานิชิ หัวหน้านักยุทธศาสตร์ของบล.เอสเอ็มบีซี เฟรนด์ กล่าวว่า หากยอดสำรองหนี้สูญของธนาคารต่างๆในไตรมาสแรกพุ่งแตะระดับสูงสุดแล้ว ตลาดหุ้นก็มีแนวโน้มว่าจะปรับตัวสูงขึ้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--