ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.47/49 ตลาดเงียบไร้ปัจจัยใหม่ คาดกรอบพรุ่งนี้ 33.35-33.55

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 8, 2023 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.47/49 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า เล็กน้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.50 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวไม่ค่อยมาก ระหว่างวันวิ่งอยู่ในกรอบ 33.43-33.60 บาท/ดอลลาร์ โดยช่วงเช้าค่อนข้างเงียบ ยัง ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะมีผลต่อทิศทางของค่าเงินเท่าใดนัก แม้แต่การแถลงนโยบายประจำปีของประธานาธิบดีสหรัฐต่อ สภาครองเกรสก็ไม่ได้มีผล

"วันนี้เงินบาทในช่วงเช้าค่อนข้างนิ่งๆ ตลาดเงียบ ระหว่างวันไม่ได้มีปัจจัยอะไรที่สำคัญมาก คำแถลงของไบเดน ก็ไม่ได้ส่ง ผลอะไรมากนัก" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.35 - 33.55 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 130.71/72 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 131.15 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0752/0755 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0726 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,670.34 จุด ลดลง 10.15 จุด (-0.60%) มูลค่าการซื้อขาย 60,523 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 194.11 ลบ.(SET+MAI)
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เผยแพร่รายงานฉบับย่อ ในการประชุมเมื่อวันที่ 25 ม.ค.66 ที่มีมติเป็น
เอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ต่อปี เป็น 1.50% โดยมองว่า การทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง เป็น
แนวทางการดำเนินนโยบายการเงินที่สอดคล้องกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ แต่ กนง. พร้อมจะปรับขนาด และ
เงื่อนเวลาของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หากแนวโน้มเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อไทยเปลี่ยนไปจากที่ประเมินไว้
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรมเดือน ม.ค.66 พบว่า อัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 64% ตามจำนวนนักท่อง
เที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น จากผลของนโยบายการเปิดประเทศของจีน ทั้งนี้ ปัญหาขาดแคลนแรงงาน การกลับมาแพร่ระบาดของโควิด
และจำนวนเที่ยวบินที่ยังไม่กลับมาปกติ ซึ่งส่งผลให้ราคาตั๋วเครื่องบินแพง จะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการรองรับนักท่องเที่ยวในระยะ
ข้างหน้า พร้อมคาดการณ์ว่าอัตราการเข้าพักเดือน ก.พ. จะเฉลี่ยอยู่ที่ 60%
  • ฟิทช์เรตติ้ง ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2566 สู่ระดับ 5.0% จากเดิมที่ 4.1% เนื่อง
จากการอุปโภคบริโภค และกิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายภาคส่วน กำลังฟื้นตัวขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ หลังจีนยกเลิก
นโยบาย Zero Covid
  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ แถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรส โดยระบุว่า คณะบริหารของเขา
สามารถสร้างงานใหม่ในสหรัฐได้จำนวนมากถึง 12 ล้านตำแหน่ง ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี ซึ่งมากกว่าที่ประธานาธิบดีคนใด
ๆ ในสหรัฐเคยสร้างได้ใน 4 ปี
  • ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (repo rate) ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ย

นโยบายอีก 0.25% สู่ระดับ 6.50% ในการประชุมวันนี้ตามคาด ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 6 ติดต่อกัน เนื่องจาก

เงินเฟ้อของอินเดียยังคงอยู่ในระดับสูง แม้มีสัญญาณบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อที่คำนวณจากยอดค้าปลีกพุ่งแตะจุดสูงสุดแล้วก็ตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ