ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ตัวเลขเงินเฟ้อสูง หนุนดอลล์แข็งเทียบเงินสกุลหลักๆ

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมี.ค.ที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทำให้เทรดเดอร์มองว่าตัวเลขดังกล่าวอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมครั้งหน้า
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.5777 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.5843 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 1.9611 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9787 ดอลลาร์/ปอนด์
          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.9240 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9271 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 0.7849 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7912 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
          นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 101.56 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 101.07 เยน/ดอลลาร์
          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) เดือนมี.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% ซึ่งนักวิเคราะห์และเทรดเดอร์ส่วนใหญ่คาดว่า ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นรุนแรงและดัชนีพีพีไอที่เพิ่มขึ้นเกินคาด อาจทำให้เฟดลังเลที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมครั้งหน้า
          ที่ผ่านมานั้น เฟดได้ลดดอกเบี้ยลงหลายครั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้ แต่การลดดอกเบี้ยเป็นปัจจัยลบต่อสกุลเงินดอลลาร์ เพราะทำให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีมูลค่าน้อยลงและไม่น่าดึงดูดใจ
          นายเดวิด โซลิน นักวิเคราะห์จากบริษัทฟอเรนจ์ เอ็กซ์เชนจ์ อนาไลติก กล่าวว่า "นักลงทุนจับตาดูตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐว่าจะฟื้นตัวขึ้นหรือไม่ หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการคืนเงินภาษีให้กับประชาชนตั้งแต่เดือนก.พ. อีกทั้งจับตาดูการประชุมเฟดครั้งต่อไปด้วย"
          ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงเกินคาดทำให้ธนาคารกลางยุโรปตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.0% ซึ่งเป็นการคงติดต่อกันยาวนานถึง 10 เดือน ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 5% จากเดิมที่ 5.25% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศที่ได้รับผลพวงจากวิกฤติสินเชื่อทั่วโลก
          นอกจากนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศสรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของฝรั่งเศสในเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 3.2%