Moody's Economy.com กล่าวว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของจีนในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.ปี 2551 ขยายตัว 10.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งสวนทางจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้
Moody's Economy.com เปิดเผยโดยอ้างการรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนมี.ค. ขยายตัว 17.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ส่วนรายได้หลังหักภาษีในเขตเมืองช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี เมื่อเปรียบเทียบกับระดับ 12.2% ในปีก่อนหน้านี้ และรายได้หลังหักภาษีในเขตชนบทปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี เมื่อเปรียบเทียบกับระดับ 9.5% ในช่วงไตรมาสก่อนหน้านี้
ค่าแรงที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเป็นปัจจัยที่หนุนอัตราการอุปโภคบริโภคของจีน ซึ่งส่งผลให้ยอดค้าปลีกขยายตัว 21.5% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งนับเป็นสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มทำการสำรวจเป็นครั้งในปี 2542
ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนมี.ค.แตะระดับที่ 8.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ลดลงจากระดับ 8.7% ในเดือนก.พ.
Moody's Economy.com กล่าวว่า จีนได้ออกมาตรการต่างๆ อาทิ ปรับขึ้นเพดานสำรองเงินฝากธนาคารพาณิชย์ ยกเลิกการเรียกคืนภาษีส่งออกธัญพืช และควบคุมราคาสินค้าทางการเกษตร เพื่อบรรเทาแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อในประเทศที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ จีนยังปล่อยให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ในปี 2551 และการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินหยวนอย่างต่อเนื่องนั้นจะช่วยทำให้ราคานำเข้าซึ่งซื้อขายด้วยเงินหยวนถูกลง โดยเฉพาะสินค้าโภคภัณฑ์และผลผลิตต่างๆ รวมถึงยังเป็นการสกัดกั้นยอดขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก และบรรเทาแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--