สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) คาดการณ์ว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ภาคการเกษตรจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะนี้
S&P เปิดเผยในรายงานว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ผันผวนในระยะนี้จะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่มีอิทธิพลสำคัญเนื่องจากบริษัทผู้ผลิตสินค้าเกษตรเริ่มมีส่วนเกี่ยวข้องกับภาคอุตสาหกรรมพลังงานมากยิ่งขึ้น
"เราได้เห็นถึงจุดรุ่งเรืองและจุดร่วงโรยในภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวมาแล้วก่อนหน้านี้ โดยปัจจัยต่างๆจากทั้งสภาพอากาศที่เลวร้าย นโยบายการให้เงินช่วยเหลือของรัฐบาล ล้วนแต่ส่งผลต่อราคาสินค้าเกษตรที่ผันผวนทั้งสิ้น นอกจากนี้ การเก็งกำไรในตลาดก็มักส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ด้วยเช่นกัน ซึ่งภาวะเช่นนี้ได้ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนไม่น้อยต่างเสาะหาทางเลือกเพื่อลงทุนในตลาดตราสารหนี้ ตลาดหุ้น หรือในตลาดอสังหาริมทรัพย์แทน"
อย่างไรก็ตาม S&P ระบุว่า ปัจจัยต่างๆที่มีผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในขณะนี้แตกต่างจากในอดีตที่ผ่านมา เนื่องจากกระแสการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพที่กำลังมาแรง และระดับความต้องการอาหารในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่เช่น จีน และอินเดียที่เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ S&P เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่า อันดับความน่าเชื่อถือในกลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจสินค้าเกษตรที่หลากหลายจะยังทรงตัวอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพต่อไปในอีก 1-2 ปีหน้า
นอกจากนี้ S&P กล่าวแนะว่า ความจำเป็นในการเร่งระดมทุนและการกระตุ้นกระแสเงินสดหมุนเวียน รวมถึงการใช้ความสามารถเพื่อฝ่าวิกฤตต้นทุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งสูงนั้นจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่มีผลต่ออันดับเครดิตของกลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านสินค้าเกษตร
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--