ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.68 ระหว่างวันแกว่งแคบ ตลาดรอตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 3, 2023 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.68 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่เปิด ตลาดที่ระดับ 34.75 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 34.68 - 34.78 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคค่อนข้างทรงตัว เคลื่อนไหวขึ้นลงตามการซื้อขายทั่วไป โดยหลังดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยูโรโซนประกาศออกมาในช่วงบ่าย เงินบาทก็ลงมาเล็กน้อย

นักบริหารเงิน คาดว่า วันอังคารเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50 - 34.80 บาท/ดอลลาร์

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคืนนี้ คือ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.พ. จากเอสแอนด์พี โกลบอล ทั้งนี้ ต้องติดตามแนวโน้ม ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะลดลงกว่าเดือนม.ค. แต่ถ้าออกมาสูงกว่าเดือนม.ค. ก็มีโอกาสที่สกุลเงินดอลลาร์จะพุ่งขึ้นมา อีกครั้งในช่วงวันที่ 6-7 มี.ค. 66

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 136.13/15 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 136.58 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0612/0616 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0608 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,606.88 จุด ลดลง 5.76 จุด (-0.36%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 57,813.46 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 832.69 ลบ. (SET+MAI)
  • Krungthai COMPASS ประเมินว่า การส่งออกไทยยังมีแนวโน้มหดตัวต่ออีกระยะหนึ่ง เนื่องจากสินค้าส่งออกหลักหลาย
รายการยังจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว รวมถึงการปรับสมดุลระดับสินค้าคงคลัง หลังจากความต้องการสินค้าที่เคยได้รับ
อานิสงส์จากโควิด-19 โดยเฉพาะสินค้าเกี่ยวกับการทำงานที่บ้านลดลง ขณะที่เศรษฐกิจจีนยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และอาจต้องรอให้ปรับตัวดีขึ้น
ชัดเจนในไตรมาสที่ 2/66 ดังนั้น การส่งออกในระยะข้างหน้า จึงยังเผชิญแรงกดดันและมีโอกาสที่มูลค่าการส่งออกในปี 66 อาจต่ำกว่า
ประมาณการที่เคยประเมินไว้เดิม และมีโอกาสจะขยายตัวในอัตราติดลบ
  • มอร์แกน สแตนลีย์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้อัตรา
ดอกเบี้ยสูงสุด (Terminal Rate) ของ ECB ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 4% สอดคล้องกับที่โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ECB จะปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.5% จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 3.25%
  • เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนกล่าวเป็นนัยว่า สหรัฐเป็นต้นเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเผชิญกับผันผวน
อย่างหนัก ซึ่งถือเป็นการเปิดศึกวาทกรรมครั้งล่าสุดที่จีนต้องการกดดันให้สหรัฐเป็นผู้รับผิดชอบต่อกรณีที่ประเทศยากจนที่สุดบางประเทศต้อง
เผชิญกับแรงกดดันด้านหนี้สิน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ