นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบผลการตรวจประเมินประเทศสมาชิกองค์การทางทะเลระหว่างประเทศภาคบังคับ (IMO Member State Audit Scheme: IMSAS) ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Organization: IMO) โดยจากผลการประเมิน นายกรัฐมนตรียินดีเป็นอย่างยิ่งที่ไทยดำเนินการได้ตามมาตรฐานของ IMO และได้รับความชื่นชมว่ามีระบบการปฏิบัติงานที่โดดเด่น ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ซึ่ง IMO จะนำไทยไปเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่ประเทศสมาชิกต่อไป
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาล โดยกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ได้เข้าร่วมการตรวจประเมินจาก IMSAS ระหว่างวันที่ 20 - 27 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา โดยจากการประเมิน ประเทศไทยดำเนินการได้ตามมาตรฐานของ IMO และได้รับความชื่นชมว่ามีระบบการปฏิบัติงานที่โดดเด่นในการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน 4 เรื่อง ได้แก่ 1) การใช้เทคโนโลยีในการตรวจจับข้อบกพร่องของเครื่องหมายช่วยการเดินเรือ (Aids to Navigation: AtoN) 2) การนำระบบบูรณาการข้อมูลกิจการทางทะเล (Thai Integrated Shipping Information System: THISIS) มาใช้ในการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล และกำกับดูแลการดำเนินการตามตัวชี้วัด (KPI) 3) การนำระบบ MSI Platform มาใช้ในการให้ข้อมูลด้านความปลอดภัยทางทะเล และบูรณาการข้อมูลร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ของไทย และ 4) การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมความปลอดภัยและการจราจรทางน้ำ ซึ่ง IMO ชื่นชมผลการดำเนินการของไทยและจะนำไปเป็นต้นแบบในการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของประเทศสมาชิกต่อไป
ทั้งนี้ โครงการตรวจสอบประเทศสมาชิกองค์การทางทะเลระหว่างประเทศภาคบังคับ เป็นมาตรการของ IMO ในการยกระดับการดำเนินการตามพันธกรณีของอนุสัญญาระหว่างประเทศด้านความปลอดภัยและการปกป้องคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล โดยผลการตรวจประเมินของ IMSAS จะเป็นการแจ้งถึงสิ่งที่ตรวจพบและข้อสังเกตเกี่ยวกับการดำเนินการในฐานะรัฐเจ้าของธง (Flag State) รัฐเจ้าของท่าเรือ (Port State) และรัฐชายฝั่ง (Coastal State) ให้ประเทศสมาชิกที่ถูกตรวจประเมินทราบ เพื่อนำสิ่งเหล่านั้นไปปรับปรุงและจัดทำแผนแก้ไขปรับปรุง (Corrective Action Plan: CAP) เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางทะเล โดยจะมีการตรวจสอบและติดตามการดำเนินการเป็นระยะเวลาทุก 7 ปี
"นายกรัฐมนตรีขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ร่วมดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานการเดินเรือ เพื่อความปลอดภัยและปกป้องสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่องและจริงจัง รวมถึงมีพัฒนาการที่เห็นได้ชัด และบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานทางทะเลที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน ปฏิบัติตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีกำหนด นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ซึ่งช่วยยกระดับมาตรฐานการขนส่งทางน้ำของประเทศไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานของ IMO เป็นชื่อเสียง ภาพลักษณ์ที่ดีในระบบการปฏิบัติงานด้านการขนส่งทางน้ำของไทย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้พัฒนามาตรฐานการขนส่งทางน้ำของไทยให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป" นายอนุชาฯ กล่าว