น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้รับทราบรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (63-65) ได้มีบรรษัทข้ามชาติใหญ่ระดับโลกเลือกใช้ไทยเป็นฐานลงทุนใน 5 อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยมียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 2,687 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 6 แสนล้านบาท
นายกรัฐมนตรีพอใจกับการเติบโตของการลงทุนที่เกิดขึ้น และถือเป็นผลสะท้อนที่เป็นรูปธรรมแสดงให้เห็นว่าต่างชาติเชื่อมั่นต่อนโยบายของรัฐบาล พื้นฐาน ศักยภาพของประเทศไทยและคนไทย โดยยกให้ความสำเร็จนี้เป็นผลงานของทีมไทยแลนด์ของทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น ทีมปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ บีโอไอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมกันทำงานอย่างหนักท่ามกลางการแข่งขันกับประเทศต่างๆที่เร่งดึงดูดนักลงทุนเช่นกัน แต่ทีมไทยแลนด์ก็สามารถผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่นักลงทุนทั่วโลกเลือกเป็นฐานการผลิตได้
"ในเดือน มี.ค.นี้ สำนักงานบีโอไอจะเสนอโครงการลงทุนขนาดใหญ่อีกหลายโครงการให้บอร์ดบีโอไออนุมัติ การที่ต่างชาติเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทยต่อเนื่อง ทำให้นายกรัฐมนตรีมั่นใจว่ารัฐบาลได้กำหนดนโยบายมาถูกทางและได้การวางรากฐานให้อุตสาหกรรมใหม่ของประเทศให้เข้มแข็งต่อไปในอนาคต" น.ส.ไตรศุลี กล่าว
สำหรับการขอรับส่งเสริมการลงทุนของบรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ใน 5 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนรวมถึงสถานีอัดประจุไฟฟ้า 46 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 78,115 ล้านบาท 2.อุตสาหกรรมดิจิทัล 420 โครงการ มูลค่า 64,481 ล้านบาท 3.อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 92 โครงการ มูลค่า 113,990 ล้านบาท 4.อุตสาหกรรม BCG 1,911 โครงการ มูลค่า 305,170 ล้านบาท และ 5.อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ 218 โครงการ มูลค่า 53,104 ล้านบาท