นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ชื่นชมการทำงานของทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตพลาสติกชีวภาพ ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แก้ปัญหาพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง และส่งเสริมการอนุรักษ์ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
โดยประเทศไทยเป็นผู้ผลิตพลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) รายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกต่อจากสหรัฐฯ เนื่องจากมีวัตถุดิบ อาทิ อ้อย และมันสำปะหลัง ภายในประเทศจำนวนมากเพื่อการผลิต และด้วยศักยภาพกำลังการผลิตของประเทศอยู่ที่ 95,000 ตันต่อปี และมีแผนจะเพิ่มปริมาณการผลิตอีก 75,000 ตันต่อปี โดยกว่า 90% ของผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพเป็นไปเพื่อการส่งออก ส่วนที่เหลือจำหน่ายภายในประเทศ ซึ่งการผลิตพลาสติกชีวภาพไม่เพียงแต่เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรของไทยเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเป็นทางเลือกหนึ่งในการจัดการกับปัญหาที่เกิดจากพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งอีกด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ประกาศให้โมเดลเศรษฐกิจ BCG เป็นวาระแห่งชาติ โดยมีเศรษฐกิจชีวภาพเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ หัวใจของเศรษฐกิจชีวภาพคือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนเป็นวัตถุดิบ ทั้งเพื่อผลิตพลังงาน อาหาร รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มอื่นๆ นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้ผู้ผลิตนำเอาเทคนิคต่างๆ มาใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ และก่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด หรือไม่มีผลกระทบเลยต่อสิ่งแวดล้อม
"รัฐบาลชื่นชมผู้ประกอบการไทยที่พัฒนาศักยภาพและฝีมือจนทัดเทียมนานาประเทศ ขณะเดียวกันเป็นอุตสาหกรรมที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ต้องขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนที่ให้การสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่ารูปแบบทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมจะทำให้เกิดความสมดุล ยั่งยืนในโลก และรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนเศรษฐกิจไทยที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน พร้อมเพิ่มศักยภาพสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในระดับสากล" นายอนุชา กล่าว