กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.35-35.00 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 34.72 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 34.68-35.39 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 12 สัปดาห์ ก่อนจะพลิกกลับมาฟื้นตัวตามค่าเงินหยวน เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญ โดยดัชนีดอลลาร์เทียบกับตะกร้าเงินหลักย่อตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์ท่ามกลางแรงขายทำกำไรหลังข้อมูลบ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตเดือนกุมภาพันธ์ของจีนเติบโตในอัตราสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดอย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเดือนกุมภาพันธ์พุ่งขึ้นเช่นกันโดยเป็นการขยายตัวมากที่สุดตั้งแต่เดือน มี.ค.65 สร้างความหวังเกี่ยวกับแนวโน้มการประคองตัวของเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง ขณะที่ยุโรปและสหรัฐฯยังคงเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูง อย่างไรก็ตาม แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) ระยะสั้นของสหรัฐฯ ยังไต่ระดับสูงขึ้น แต่ค่าเงินดอลลาร์ได้แรงหนุนอย่างจำกัดเนื่องจากบอนด์ยิลด์ของยุโรปปรับตัวสูงขึ้นล้อไปกับการคาดการณ์นโยบายการเงินตึงตัวของกลุ่มยูโรโซน ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ 10,142 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตร 3,216 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ มองว่า จุดสนใจของตลาดจะอยู่ที่ถ้อยแถลงประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.พ.ของสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลต่อการประเมินทิศทางดอกเบี้ยเฟดต่อไป นอกจากนี้จะมีการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของผู้ว่าการคนปัจจุบัน โดยคาดว่าจะยังคงนโยบายการเงินในรอบนี้
อย่างไรก็ดี BAY มองว่าเงินเยนอาจผันผวนในกรอบที่แข็งค่า ขณะที่นักลงทุนจะจับตาสัญญาณเกี่ยวกับมาตรการที่บิดเบือนการทำงานของตลาดอย่าง Yield Curve Control ส่วนจีนตั้งเป้าหมายการเติบโตของจีดีพีปีนี้ไว้ที่ราว 5% ซึ่งทำให้ผู้ร่วมตลาดบางส่วนผิดหวัง แต่ BAY มองว่าเป้าหมายนี้สมเหตุสมผลและสะท้อนว่าจีนวางแนวทางให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างมั่นคงโดยไม่ต้องการกระตุ้นให้ร้อนแรงจนเกินไป
สำหรับปัจจัยในประเทศ ไทยขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ม.ค.66 จำนวน 2 พันล้านดอลลาร์ โดยเป็นผลของการขาดดุลการค้าขณะที่ยอดส่งออกหดตัวแต่การนำเข้าเพิ่มขึ้น ธปท.ระบุว่า เศรษฐกิจไทยเดือน ก.พ.66 มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยต้องติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และการส่งผ่านต้นทุนของผู้ประกอบการที่อาจเพิ่มขึ้น