นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบปรับปรุงอุตสาหกรรมเป้าหมายของผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ ภายใต้การตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย Long-Term Resident Visa (LTR Visa) โดยเพิ่มอุตสาหกรรมใหม่ ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมขนส่ง และโลจิสติกส์ 2.อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 3.ศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ และ 4.อุตสาหกรรมอื่น ๆ
โดยชาวต่างชาติขอรับการรับรองคุณสมบัติฯ ซึ่งต้องทำงาน โดยใช้ทักษะเชี่ยวชาญพิเศษในด้านใดด้านหนึ่ง ใน 9 ด้าน เช่น การวิจัย และพัฒนาในอุตสาหกรรมเป้าหมายหรือเทคโนโลยีเป้าหมาย (เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ นาโนเทคโนโลยี) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับอาชีวศึกษา หรืออุดมศึกษา การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ในการประกอบธุรกิจ การบริการด้านระงับข้อพิพาท
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้คณะกรรมการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ไทย ซึ่งมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เป็นประธาน มีอำนาจในการประกาศกำหนดเพิ่ม ลด หรือปรับปรุงอุตสาหกรรมเป้าหมายได้ตามความเหมาะสม เพื่อลดเวลาในการดำเนินการ และสามารถดึงดูดผู้เชี่ยวชาญทักษะสูงสู่ประเทศไทยได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
"การปรับปรุงอุตสาหกรรมเป้าหมายของ LTR Visa ใหม่ เพื่อให้มีความยืดหยุ่น และครอบคลุมอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล และชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานที่ได้รับ LTR Visa สามารถทำกิจกรรมซึ่งเป็นประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนในไทยได้ในระยะยาวด้วย" นายอนุชา ระบุ