ครม.รับทราบผลกู้เงินปรับโครงสร้างหนี้รัฐ คลังยันอยู่ในระดับบริหารจัดการได้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 7, 2023 18:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาลที่มีระยะเวลาชำระหนี้เกิน 12 เดือน ซึ่งดำเนินการในปีงบประมาณ 65 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

เนื่องจากในปีงบประมาณ 65 (ต.ค.64-ก.ย.65) สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้กู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้รัฐบาลวงเงินรวม 1,204,030.54 ล้านบาท คิดเป็น 87% ของวงเงินตามแผนบริหารหนี้ประจำปีงบประมาณ 65 (1,384,703.45 ล้านบาท) จากวงเงินกู้ดังกล่าวเป็นวงเงินกู้ระยะเวลาชำระหนี้เกิน 12 เดือน รวม 643,305.23 ล้านบาท คิดเป็น 53% ของวงเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ทั้งหมด

การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เป็นการบริหารจัดการหนี้ของรัฐบาล เพื่อลดการกระจุกตัวของหนี้ระยะสั้น โดย ณ สิ้นปีงบประมาณ 65 หนี้คงค้างของรัฐมีจำนวนรวม 9,163,673 ล้านบาท เป็นหนี้ระยะสั้น (ไม่เกิน 1 ปี) 561,315.67 ล้านบาท คิดเป็น 6.13% และหนี้ระยะยาว (1 ปีขึ้นไป) จำนวน 8,602,357.33 ล้านบาท คิดเป็น 93.87% มีอายุเฉลี่ยของหนี้อยู่ที่ 9 ปี 1 เดือน

กระทรวงการคลัง ระบุว่า สัดสวนหนี้ดังกล่าว เมื่อรวมกับเงินกู้ของรัฐวิสาหกิจที่รัฐรับภาระอยู่ ยังอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการให้เป็นไปตามตัวชี้วัดความเสี่ยงด้านการปรับโครงสร้างหนี้ ภายใต้กลยุทธ์การบริหารหนี้สาธารณระยะปานกลางในระยะ 5 ปีข้างหน้าได้

สำหรับรายละเอียดการกู้ยืมเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่มีระยะเวลากำหนดชำระเกิน 12 เดือน วงเงิน 643,305.23 ล้านบาท มีดังนี้

1) เงินกู้ชดเชยการขาดุลงบประมาณหรือเมื่อมีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ภายใต้ พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะฯ 332,467.17 ล้านบาท

2) เงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้ พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะฯ 50,800 ล้านบาท

3) เงินกู้มาเพื่อให้กู้ต่อ ภายใต้ พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะฯ 48,706.06 ล้านบาท

4) เงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ.2545 จำนวน 29,200 ล้านบาท

5) เงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 พ.ศ.2545 จำนวน 35,450 ล้านบาท

6) เงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรงวงการคลังกู้เพื่อฟื้นฟูและสร้างเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 จำนวน 16,682 ล้านบาท

7) เงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 จำนวน 130,000 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ