นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.), กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงบันทึกความร่วมมือ เรื่อง การส่งเสริมการออมและการคุ้มครองเงินฝาก" โดยครอบคลุมถึงการให้ความรู้ทางการเงิน และความรู้เกี่ยวกับระบบคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งประกอบด้วย ความรู้เรื่องการออม เทคนิคออมเงินอย่างถูกวิธี การวางแผนทางการเงิน การป้องกันตนเองจากภัยกลโกงทางการเงิน และการคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งล้วนเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ทางการเงินของตัวเอง เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว อันถือเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
นายทรงผล ชีวะปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการ สคฝ. กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในโครงการที่มีความสำคัญภายใต้กลยุทธ์การเสริมสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมการเงิน อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่การทำงานร่วมกันในหลากหลายมิติ เพื่อประโยชน์สูงสุดของกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมให้กับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา เพื่อให้มีความรู้พื้นฐานทางการเงิน และตระหนักถึงการวางแผนการออมเงินอย่างถูกวิธีก่อนเข้าสู่วัยทำงาน
ทั้งนี้ ภารกิจหลักของ สคฝ. คือ การคุ้มครองผู้ฝากเงินและชำระบัญชีสถาบันการเงินหากเกิดวิกฤติ ซึ่งในส่วนนี้ก็จะรวมไปถึงการฝากเงินผ่านธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) โดยหากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกใบอนุญาตให้ Virtual Bank แล้ว สคฝ. ก็พร้อมจะคุ้มครองการฝากเงินทันที
โดยความคืบหน้าขณะนี้ ธปท. อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็น ซึ่งคาดว่าประมาณไตรมาส 3/2566 น่าจะเริ่มเปิดรับสมัครผู้ที่สนใจเข้ามาทำ Virtual Bank และต้นปี 2567 คาดว่าจะเริ่มออกใบอนุญาต และให้ผู้ประกอบการที่สนใจเตรียมตัว เตรียมความพร้อม โดยประเมินว่า Virtual Bank จะเริ่มเปิดทำการได้อย่างเร็วที่สุดในช่วงต้นปี 2568
น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการ กอช. กล่าวว่า กองทุนฯ ได้ดำเนินการสร้างการรับรู้ เสริมสร้างความเข้าใจให้ตระหนักถึงการวางแผนทางการเงินในอนาคต รวมถึงการรู้เท่าทันภัยทางการเงิน ตั้งแต่วัยเรียน วัยทำงาน และวัยเกษียณ ให้มีการจัดสรรเงินที่ดี ซึ่งการออมกับ กอช. เป็นหนึ่งของสวัสดิการบำนาญจากรัฐในกลุ่มอาชีพอิสระ ที่จะทำให้ครอบตัวได้มีความมั่นคงทางการเงินในอนาคต
ด้านนายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการ กยศ. กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา ผู้กู้ยืม ศิษย์เก่าผู้กู้ยืม ครู อาจารย์ รวมถึงประชาชนทั่วไป ได้มีความรู้เกี่ยวกับระบบคุ้มครองเงินฝาก และความรู้ทางการเงินพื้นฐาน สามารถวางแผนการเงินในระยะยาว รู้วิธีการวางแผนการจัดสรรรายได้ให้เพียงพอกับรายจ่ายต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม และจะเป็นประโยชน์ในการเตรียมความพร้อมด้านการเงินเพื่อสร้างโอกาสเพิ่มเติมให้ตัวเอง ตลอดจนสามารถชำระคืนเงินกู้ยืมให้กองทุนฯ ได้ตามกำหนด เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่รุ่นน้องต่อไป