นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน มีมติเปิดรับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 65-73 สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้าประเภทไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงเพิ่มเติม อีก 3,668.5 เมกะวัตต์ หลังจาก กกพ. ได้เปิดรอบแรกไปแล้ว จำนวน 5,203 เมกะวัตต์ พบว่ามีเอกชนสนใจเข้าร่วมประมูลจำนวนมาก
โดยจะเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน(โซลาร์ฟาร์ม) จากเดิมเปิดไปแล้ว 2,368 เมกะวัตต์ จะเปิดรับซื้อเพิ่มอีก 2,632 เมกะวัตต์ รวมเป็น 5,000 เมกะวัตต์ ,พลังงานลม เปิดไปแล้ว 1,500 เมกะวัตต์ จะเปิดเพิ่มอีก 1,000 เมกะวัตต์ รวมเป็น 2,500 เมกะวัตต์ และขยะอุตสาหกรรม เปิดรอบแรกไปแล้ว 100 เมกะวัตต์ และจะเปิดรับซื้อเพิ่มเติมอีก 30 เมกะวัตต์ รวมเป็น 130 เมกะวัตต์
ส่วนก๊าซชีวภาพ (น้ำเสีย/ของเสีย) เปิดรอบแรก 335 เมกะวัตต์ แต่ยังไม่มีผู้ผ่านการคัดเลือก จึงเปิดรับซื้อไฟฟ้ารอบใหม่ในอัตราเดิม
นอกจากนี้ กพช.เห็นชอบส่งเสริมพลังงานทดแทน (RE) รับซื้อเพิ่มเติม ตามแผน PDP2018 (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1) ปี 64-73 จากเดิม 10,000 เมกะวัตต์ เพิ่มเป็น 12,700 เมกะวัตต์ เพื่อเป็นการปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงการลดแผนรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำในสปป.ลาว ตามแผนงานเดิมที่มีข้อตกลงกันไว้จะรับซื้อ 15,000 เมกะวัตต์ ลดไป 700 เมกะวัตต์ เนื่องจากในปี 71 ยังไม่มีโครงการใดสามารถที่จะเข้าระบบได้ตามเป้าหมาย
พร้อมทั้งรับทราบร่างสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) โรงไฟฟ้าน้ำงึม 3 ในลาว ปริมาณขายไฟฟ้า 468 เมกะวัตต์ กำหนด COD เดือน ม.ค.69 และโรงไฟฟ้าเซกอง 4A และ 4B ปริมาณขายไฟฟ้า 347 เมกะวัตต์ กำหนด COD เดือน ม.ค.76 โดยทั้ง 2 โครงการมีอายุสัญญา 27 ปี