นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน มี.ค.66 อยู่ที่ 64.01 ปรับเพิ่มขึ้น 0.66 จุด หรือคิดเป็น 1.05% เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ.66 ที่ระดับ 63.35 จุด โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้น มาจากความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย เงินบาทอ่อนค่าหนุนราคาทองคำในประเทศ ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในสหรัฐฯ แรงซื้อเก็งกำไร และความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอย
สำหรับเดือน มี.ค.66 คาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำ จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 300 ราย ในจำนวนนี้มี 130 ราย หรือ 43% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำในเดือนนี้หรือไม่ ส่วนจำนวน 120 ราย หรือเทียบเป็น 40% ซื้อทองคำ และอีก 50 ราย หรือเทียบเป็น 17% ไม่ซื้อทองคำ
ขณะที่กลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำจำนวน 13 ราย ในจำนวนนี้มี 6 ราย หรือ 46% เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน มี.ค.66 จะเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 4 ราย หรือ 31% คาดว่าใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือน ก.พ.66 และอีก 3 ราย หรือ 23% คาดว่าจะลดลง
ส่วนคาดการณ์ราคาทองคำในเดือน มี.ค.66 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มองกรอบ Gold Spot เฉลี่ยบริเวณ 1,778-1,885 ดอลลาร์/ออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 29,550-30,750 บาท/บาททองคำ และด้านค่าเงินบาทให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 33.99-35.57 บาท/ดอลลาร์
คำแนะนำการลงทุนทองคำในเดือน มี.ค.66 ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ให้ความเห็นว่า ราคาทองคำเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงมาในระดับหนึ่ง ประกอบกับมีแรงซื้อเก็งกำไรสลับเข้ามาพยุงราคาทองคำไว้ ทั้งนี้ คาดราคาทองคำเดือน มี.ค. พยายามแกว่งตัวเพื่อรักษาระดับและสร้างฐานราคา ซึ่งหากราคาปรับตัวลดลงมาในระดับจำกัด หรือสามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าน่าจะเกิดแรงซื้อกลับเข้ามา และทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาทดสอบแนวต้านได้อีกครั้ง