นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการยืนยันตัวตนของผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ณ วันที่ 13 มี.ค.66 เวลา 14.00 น. ว่า มีผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จแล้วทั้งสิ้น 7,653,680 ราย สำหรับจำนวนผู้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ มีจำนวนทั้งสิ้น 953,223 ราย
โดยสามารถขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ ขออุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ตั้งแต่เวลา 06.00 - 23.00 น.ของทุกวัน หรือขออุทธรณ์ผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน, ธนาคารกรุงไทย (KTB), ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด, ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ, สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวัน-เวลาทำการ ของแต่ละหน่วยงาน
สำหรับเดือนมี.ค.66 ผู้ลงทะเบียนสามารถขอตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติ และขออุทธรณ์ได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัดได้ทุกวัน รวมวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น. เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 11 มี.ค.66 สำหรับผู้ผ่านเกณฑ์สามารถไปยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ได้ทุกวัน รวมวันเสาร์-อาทิตย์ โดยสาขาทั่วไป ตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.00 น. และสาขาในห้างสรรพสินค้าตั้งแต่เวลา 11.00 - 16.00 น.
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ผ่านเกณฑ์ที่เป็นผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมายืนยันตัวตนได้ด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการตรวจสอบสิทธิ และ/หรืออุทธรณ์ได้ โดยจะต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
1. บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียน (ผู้ได้รับสิทธิ)
2. บัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
3. หนังสือมอบอำนาจ (สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th)
4. บัตรประจำตัวคนพิการ (ถ้ามี) หรือใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)
เมื่อผู้ผ่านเกณฑ์ยืนยันตัวตนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะสามารถตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตนของตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ในวันถัดไป หรือติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยังไม่มีบัญชีธนาคาร จะต้องเปิดบัญชีธนาคาร และผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชน โดยสามารถเปิด "บัญชีพื้นฐาน" ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากที่ไม่กำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการเปิดบัญชี ทั้งนี้ ประเภทบัญชีดังกล่าวเป็นการให้บริการเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ที่ลงทะเบียนภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป โดยผู้ที่ประสงค์จะเปิดบัญชีดังกล่าว สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเปิดบัญชีได้ จากธนาคารออมสิน, ธ.ก.ส. และธนาคารพาณิชย์ทั้ง 14 แห่งทุกสาขาทั่วประเทศ
โฆษกกระทรวงการคลัง ย้ำว่า หากผู้ผ่านเกณฑ์ดำเนินการยืนยันตัวตนภายในวันที่ 1-26 มี.ค.66 และตรวจสอบพบว่าผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC) จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.66 แต่หากผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติยืนยันตัวตนหลังวันที่ 26 มี.ค.66 จะได้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ตามวันที่กระทรวงการคลังกำหนด
สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐปัจจุบัน จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้จนถึงวันที่ 31 มี.ค.66 เท่านั้น