ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.62 อ่อนค่าต่อเนื่อง ตลาดรอดูยอดค้าปลีกสหรัฐ ให้กรอบพรุ่งนี้ 34.50-34.75

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 15, 2023 17:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.62 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเช้าที่
เปิดตลาดที่ระดับ 34.56 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.45 - 34.63 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันหลุดแนวรับที่ 34.50 ไปบางช่วง แต่ก็สามารถกลับมายืนเหนือระดับดังกล่าวได้ ตลาดเริ่มลดความกังวลจากกรณีปิด Silicon Valley Bank (SVB) หลังได้รับทราบข้อมูล การแก้ไขปัญหาของทางการสหรัฐที่ชัดเจนมากขึ้น

คืนนี้ หากเงินบาทหลุดแนวรับที่ 34.50 ไปได้ ก็มีโอกาสจะลงเป็นแนวรับถัดไปที่ระดับ 34.70 ได้ โดยนักลงทุนติดตามการ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฉพาะยอดค้าปลีกเดือนก.พ.ของสหรัฐ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50 - 34.75 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 134.20 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 134.28 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0680 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0735 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,565.00 จุด เพิ่มขึ้น 41.11 จุด (+2.70%) มูลค่าการซื้อขาย 69,699.24 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,085.25 ลบ.(SET+MAI)
  • นายกรัฐมนตรี ติดตามใกล้ชิดสถานการณ์แบงก์พาณิชย์ในสหรัฐฯ ที่ประสบปัญหา จนเกิดความกังวลในภาคการเงินทั่วโลก
พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด วางแผนป้องกันและเตรียมรับมือ หากส่งผลกระทบถึงไทย
  • รมว.คลัง เชื่อ ตลาดหุ้นไทยจะฟื้นกลับมาได้ หลังผ่านจุดแพนิกกรณีการปิดธนาคารในสหรัฐฯ ซึ่งได้สร้างความกังวลต่อนัก
ลงทุนทั่วโลก และทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกต่างติดลบ รวมถึงตลาดหุ้นไทยที่ร่วงไปถึง 50 จุดเมื่อเย็นวานนี้ โดยล่าสุด ตลาดหลัก
ทรัพย์ทั่วโลกเริ่มรีบาวด์กลับมา แต่คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะ กว่าที่ตลาดจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
  • ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ.66 อยู่ที่ระดับ 96.2 เพิ่มขึ้นจากระดับ 93.9 ในเดือนม.ค.66 ซึ่งถือว่าสูง
สุดในรอบ 47 เดือน นับตั้งแต่เม.ย.62 โดยมีปัจจัยหนุนจากภาคการผลิตที่ขยายตัวต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ ตลอดจน
การบริโภค และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวชัดเจน จากอานิสงส์จีนเปิดประเทศ
  • มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ยังคงจัดมุมมองอันดับความน่าเชื่อถือของระบบ
ธนาคารจีนอยู่ที่ "เชิงลบ" อันเป็นผลมาจากการฟื้นตัวหลังยกเลิกนโยบายควบคุมโควิด-19 ที่ใช้ระยะเวลานานเกินควร
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมูลค่า 4.81 แสนล้านหยวนผ่านเงินกู้ระยะกลาง (MLF)
ระยะ 1 ปี ที่อัตราดอกเบี้ย 2.75% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม และอัดฉีดเงิน 1.04 แสนล้านหยวนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านข้อ
ตกลง reverse repo ประเภทอายุ 7 วันที่อัตราดอกเบี้ย 2.00% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมเช่นกัน
  • รมว.คลังญี่ปุ่น เชื่อมั่นว่า ภาคการธนาคารของญี่ปุ่น จะไม่เผชิญเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกับธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์
(SVB) เนื่องจากโครงสร้างด้านการฝากเงินของธนาคารมีความแตกต่างกัน อีกทั้งระบบการเงินโดยรวมของญี่ปุ่นยังคงมีเสถียรภาพ เนื่อง
จากธนาคารต่าง ๆ มีเงินทุนสำรองเพียงพอต่อการรับมือความเสี่ยง
  • คืนนี้สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ยอดค้าปลีกเดือนก.พ., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ.,

ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนมี.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค. และดัชนีตลาดที่อยู่

อาศัยเดือนมี.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ