ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ผลประกอบการซิตี้กรุ๊ป หนุนดอลล์แข็งเทียบยูโร

ข่าวต่างประเทศ Monday April 21, 2008 06:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 เม.ย.) ค่าเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร โดยสามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับยูโรได้ หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศยุโรปแสดงความกังวลว่าความแข็งแกร่งของสกุลเงินยูโรกำลังสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของยุโรป นอกจากนี้ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเนื่องจากผลประกอบการของซิตี้กรุ๊ปและกูเกิลทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวแนวโน้มตลาดสินเชื่อ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.5810 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.5895 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 103.68 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 102.53 เยน/ดอลลาร์ และค่าเงินปอนด์แข็งขึ้นแตะระดับ 1.9942 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9904 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.9342 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9366 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 0.7908 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7898 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
แกรี่ ธอมสัน นักวิเคราะห์จากซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์กล่าวว่า "ความแข็งของยูโรกำลังสร้างความกังวลให้กับกลุ่มบริษัทและนักการเมืองในประเทศยุโรปว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของยุโรป เพราะจะทำให้สินค้ายุโรปมีราคาแพงสำหรับกลุ่มผู้ซื้อในสหรัฐอเมริกา"
เมื่อวันศุกร์ผ่านมา นายฌอง-คล้อด จังเกอร์ นายรัฐมนตรีลักเซมเบิร์ก กล่าวว่า "สกุลเงินดอลลาร์กำลังเคลื่อนไหวในทิศทางที่สร้างความเสียหายต่อประเทศยุโรป"
ขณะที่นายแอนตัน บอร์เนอร์ ผู้อำนวยการสมาพันธ์การส่งออกของเยอรมนีกล่าวว่า บริษัทการบินและรถยนต์ในยุโรปหลายแห่งกำลังย้ายฐานการผลิตไปยังสหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่สูงขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากค่าเงินยูโรที่แข็งขึ้น และเพื่อใช้ประโยชน์จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องในขณะนี้
ด้านนายรูเพิร์ท สแต็ดเลอร์ ผู้บริหารบริษัทออดี้ เอจี กล่าวว่า ออดี้กำลังพิจารณาว่าจะย้ายฐานการผลิตบางส่วนไปยังสหรัฐหรือไม่ เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้นเพราะการแข็งค่าของยูโรนั้น กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อบริษัท
ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากการที่ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยยอดขาดทุนสุทธิไตรมาสแรกของปีนี้ที่ 5.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยธนาคารขาดทุนจากการปล่อยเงินกู้จำนองบ้านให้ลูกหนี้กลุ่มซับไพรม์ อย่างไรก็ดี ยอดขาดทุนดังกล่าวยังไม่สูงเท่ากับเมื่อไตรมาส 4 ปีที่แล้วที่เกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะที่ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของกูเกิลก็ช่วยกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเช่นกัน กูเกิล อิงค์ (Google Inc.) เปิดเผยว่า ธุรกิจโฆษณาออนไลน์ที่เฟื่องฟูและการขยายธุรกิจในต่างประเทศ ทำให้บริษัทมีกำไร 1.31 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.12 ดอลลาร์ต่อหุ้นในไตรมาสแรก จากเดิมที่ 1 พันล้านดอลลาร์ หรือ 3.18 ดอลลาร์ต่อหุ้นในไตรมาสแรกของปีที่แล้ว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ