ญี่ปุ่นเผยดัชนีภาคการบริการเดือนก.พ.ร่วง เหตุอัตราการใช้จ่ายผู้บริโภคลด

          ความต้องการในภาคการบริการของญี่ปุ่นปรับตัวลงในเดือนก.พ.2551 เนื่องจากราคาอาหารและพลังงานที่สูงขึ้น เป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลง
          กระทรวงการค้าของญี่ปุ่นกล่าวว่า ดัชนีภาคการบริการ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอัตราการใช้โทรศัพท์ พลังงาน การใช้เงิน และการคมนาคมขนส่งของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจต่างๆ ปรับตัวลดลง 1.7% จากระดับในเดือนม.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.4% ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ 33 คนที่บลูมเบิร์กนิวส์สำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า ดัชนีภาคการบริการจะลดลง 0.5%
          ส่วนความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงกว่าการขยายตัวของรายได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อบริษัทค้าปลีกต่างๆซึ่งรวมถึงบริษัท อีออน โค ผู้ประกอบการซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งมีผลกำไรลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
          "ความต้องการในภาคการบริการที่ลดลงชี้ให้เห็นว่า ราคาน้ำมันและสินค้าต่างๆที่พุ่งสูงขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและบริษัทต่างๆทั่วประเทศ" จุนโกะ นิชิโอกะ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากเอบีเอ็น แอมโร ซิเคียวริตี้ส์ในโตเกียวกล่าว
          นอกจากนี้ ราคาน้ำมันและอาหารที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี และส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ซึ่งมีอัตราการจับจ่ายคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจในประเทศซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก
          ความต้องการด้านอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลง 4.8% นับเป็นสถิติที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2541 
          ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆปรับตัวเพิ่มขึ้นและลดลงแตกต่างกันไป โดยความเชื่อมั่นของบรรดาผู้ผลิตขนาดใหญ่ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ขณะที่การผลิตเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.พ. และยอดส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้น เว็บไซต์บลูมเบิร์กรายงาน