สิงคโปร์เผยจะไม่ใช้มาตรการควบคุมราคาสินค้าแม้ราคาอาหารพุ่งสูงขึ้น

          รัฐบาลสิงคโปร์ได้ออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลไม่ได้วางแผนที่จะใช้มาตรการควบคุมราคา ท่ามกลางสถานการณ์ราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น และรัฐบาลจะให้ความสนใจกับการรับประกันเรื่องอุปทานอาหารที่เพียงพอในตลาดภายในประเทศ
          สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า มาห์ โบว์ ตัน รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาแห่งชาติกล่าวกับที่ประชุมรัฐสภาว่า เราไม่สามารถควบคุมความเคลื่อนไหวของราคาได้ หากว่ามีแรงกดดันราคาให้อยู่ในช่วงขาขึ้น เราก็จะต้องยอมรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
          ในบรรดามาตรการที่รัฐบาลสิงคโปร์ได้นำมาใช้เพื่อกระตุ้นอุปทานอาหารก็คือ การอนุมัติให้มีการนำเข้าอาหาร อาทิ เนื้อจากแหล่งผลิตใหม่ๆ เช่น ฟิลิปปินส์
          เอส อิวารัน รัฐมนตรีอาวุโสกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ กล่าวว่า รัฐบาลยังได้อนุญาตให้กลุ่มผู้นำเข้าข้าวนำเข้าข้าวเพิ่มเคิมจากแหล่งใหม่ๆ เช่น สหรัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะวิกฤตอุปทานในอนาคต สำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นแหล่งส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์นั้น ไม่ได้ลดการส่งข้าวคุณภาพดีเลิศแก่สิงคโปร์แต่อย่างใด ขณะที่กลุ่มผู้ผลิตข้าวในเวียดนาม อินเดีย และจีนได้เพิ่มการส่งออกข้าวขาว เพื่อควบคุมราคาสินค้าภายในประเทศที่สูงขึ้น แต่การจัดส่งอุปทานข้าวคุณภาพดีมายังสิงคโปร์นั้นยังไม่มีปัญหาเกิดขึ้น 
          ราคาข้าวพุ่งสูงขึ้นมากถึง 1,000 ดอลลาร์ต่อเมตริคตันในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากระดับราคาปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผกระทบจากภาวะขาดแคลนอาหารทั่วโลก
          ทั้งนี้ ราคาเชื้อเพลิง อาหาร และที่อยู่อาศัยส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของสิงคโปร์อยู่ที่ระดับสูงในรอบ 25 ปี มาอยู่ที่ 6.6% ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ส่วนอัตราเงินเฟ้อในเดือนมี.ค.คาดว่า จะยังคงอยู่ในระดับสูงและอาจจะสูงถึง 6.8%