นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง มั่นใจอีก 6 เดือนข้างหน้าภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยจะกลับคืนเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะเชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยจะไม่ถดถอยไปกว่านี้แล้ว เนื่องจากโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศมีปัจจัยพื้นฐานและมาตรการต่างๆ ที่ดีขึ้น โดยจะเห็นได้จากดัชนีความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นต่อเนื่อง 4-5 เดือน และสูงสุดในรอบ 15 เดือนที่ผ่านมา
"โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ดีขึ้นแล้ว ดังจะเห็นได้จากดัชนีชี้วัดต่างๆ ทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เติบโตสูงขึ้นต่อเนื่องกัน และจีดีพีที่ทุกฝ่ายมองว่าจะไม่ต่ำกว่า 5% อีกแล้ว และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ระบุว่าไทยเป็นประเทศเดียวในเอเซียที่มีจีดีพีสูงกว่าปีก่อนได้ ซึ่งรัฐบาลเองก็ยังคาดว่าจีดีพีในปีนี้จะโตได้ที่ 6%" นพ.สุรพงษ์ กล่าว
นพ.สุรพงษ์ ยังเชื่อว่า จากนี้ไปจะไม่มีการยึดอำนาจทางการเมืองเกิดขึ้นอีกเหมือนวันที่ 19 ก.ย.49 เพราะหลายฝ่ายเข้าใจดีว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง และเปลี่ยนผ่านเหมือนกันกับทุกประเทศ โดยรัฐบาลจะพยายามประคับประคองให้ระบอบประชาธิปไตยก้าวหน้าต่อไป โดยยึดผลประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นหลัก ส่วนจะมีความเห็นที่แตกต่างกันนั้นถือเป็นเรื่องปกติของสังคมประชาธิปไตย และไม่มีใครอยากเห็นบ้านเมืองกลับไปอยู่ในช่วงที่มีการยึดอำนาจ
ทั้งนี้หากเปรียบอาการของคนไข้กับภาวะเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ จะเห็นว่าดีขึ้นแล้วทั้งสภาพร่างกายที่หมายถึงเศรษฐกิจพื้นฐานและสภาพจิตใจที่หมายถึงความเชื่อมั่นโดยรวม และอีกไม่นานจะสามารถออกจากห้องไอซียูเพื่อกลับไปพักฟื้นในห้องปกติและกลับมามีสภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงดังเช่นคนปกติได้
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับภาคการท่องเที่ยวที่ถือเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้เข้าประเทศ รวมถึงช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดังนั้นรัฐบาลได้เตรียมเดินหน้าโครงการปรับปรุงถนนราชดำเนินเพื่อให้เป็นศูนย์กลางแห่งถนนด้านศิลปะและความรู้ ตลอดจนการก่อสร้างอุทยานเฉลิมพระเกียรติที่ถือเป็นโครงการระดับโลก โดยคาดว่าภายใน 2-3 เดือนจากนี้จะมีการจัดตั้งองค์การมหาชนขึ้นเพื่อเป็นหน่วยงานดำเนินการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว
สำหรับโครงการปรับปรุงถนนราชดำเนิน เคยมีแนวคิดไว้ 3-4 ปีก่อนหน้านี้ ซึ่งถือเป็นโครงการที่สำคัญในการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งเป็นโครงการลงทุน 5 ปี วงเงินประมาณ 1.6 พันล้านบาท แต่อาจจะมีการทบทวนตัวเลขงบลงทุนใหม่อีกครั้ง และภายใน 1 ปีจากนี้จะมีการย้ายสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อก่อสร้างอุทยานเฉลิมพระเกียรติดังกล่าว
รมว.คลัง กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 30 เม.ย.นี้ จะนัดประชุมร่วมกับรัฐวิสาหกิจเกือบ 60 แห่ง ซึ่งนอกจากจะมีการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนแล้ว สิ่งที่สำคัญคือจะหารือถึงแนวทางการพัฒนาการแข่งขันและการเพิ่มศักยภาพของรัฐวิสาหกิจ เพื่อเป็นการสร้างรากฐานที่ดีไปสู่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจในอนาคต
"การปฏิรูปรัฐวิสาหกิจเป็นเรื่องใหญ่และท้าทาย แต่การพัฒนาการแข่งขันและเพิ่มศักยภาพก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่ใช่จะเน้นแค่การแปรรูปเพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะสิ่งนี้ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เพราะตราบใดที่รัฐวิสาหกิจไม่มีความสามารถในการแข่งขัน ก็จะไม่มีใครสนใจเข้ามาลงทุน" รมว.คลัง กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ธนวัฏ/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--