หนังสือพิมพ์เวียดนาม นิวส์ รายงานว่า นายเหงียน ตัน ดุง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ขอร้องให้เจ้าหน้าที่บริหารระดับท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหามาตรการเพื่อลดการเปลี่ยนพื้นที่การเกษตรไปเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกข้าว
นายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวว่า โครงการต่างๆที่ละเมิดกฎหมายที่ดินจะต้องคืนพื้นที่ไปเป็นพื้นที่สำหรับการเกษตรตามเดิม เนื่องจากรัฐบาลเกรงว่าการเปลี่ยนพื้นที่การเกษตรไปเป็นเขตอุตสาหกรรม เขตที่อยู่อาศัย หรือเขตก่อสร้างโดยที่ไม่มีการควบคุม จะกระทบต่อสถานการณ์อาหารภายในประเทศและเป็นการผลักดันให้เกษตรกรหลายพันคนต้องตกงาน
นายกรัฐมนตรียังได้ขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องในการจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อประเมินสถานการณ์การใช้พื้นที่การเกษตรทั่วประเทศ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามยังได้แนะให้หน่วยงานท้องถิ่นประเมินสถานการณ์การใช้ที่ดินใหม่ โดยที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือสงวนไว้สำหรับโครงการซึ่งล่าช้ากว่ากำหนด ต้องคืนที่ดินให้เป็นพื้นที่การเกษตร
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่าในปี 2548 และ 2550 เวียดนามได้สูญเสียพื้นที่ปลูกข้าวประมาณ 34,330 เฮกตาร์ โดยพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงซึ่งเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศประมาณ 16,000 เฮกตาร์และบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดงซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าวที่สำคัญของประเทศอีกแห่งหนึ่งประมาณ 8,000 เฮกตาร์ ได้ถูกแปรสภาพเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่การเกษตร สำนักข่าวซินหัวรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--