นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 34.41 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 34.35 บาท/ดอลลาร์
เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น หลังการประกาศปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปค ประกอบกับมีเงินทุนต่างประเทศ (Flow) ไหลออกจากตลาดพันธบัตร 6 พันล้านบาท ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.27 - 34.46 บาท/ดอลลาร์
"บาทอ่อนค่าจากเปิดตลาดเมื่อเช้า ตามทิศทางตลาดโลก หลังราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และมี Flow ไหลออก"
นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.25 - 34.55 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 133.47 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 133.08 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0845 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0806 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,600.37 จุด ลดลง 8.80 จุด (-0.55%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 46,786 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,405.77 ลบ. (SET+MAI)
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนมี.ค. 66 อยู่ที่ 52.9 เพิ่มขึ้นจากระดับ
50.6 ในเดือนก.พ. ซึ่งอยู่เหนือระดับ 50 ได้ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 สะท้อนภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น ตามการปรับเพิ่มขึ้น
ในทุกองค์ประกอบ นำโดยด้านผลประกอบการและการผลิต ความเชื่อมั่นในภาคการผลิตปรับดีขึ้นในเกือบทุกธุรกิจ และส่งผลให้ดัชนีฯ เพิ่ม
ขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 50 ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน สะท้อนภาวะธุรกิจที่ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยเฉพาะกลุ่มผลิตอาหารและเครื่อง
ดื่ม รวมถึงกลุ่มผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ ที่ความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อและผลประกอบการปรับดีขึ้นมาก
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า สงกรานต์ปี 66 ความกังวลโควิดหมดไป หลายจังหวัดเตรียมจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาล
สงกรานต์อย่างเต็มรูปแบบในรอบ 3 ปีกันอย่างคึกคัก ทั้งนี้ ประเมินว่า การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยในช่วงเทศกาล
สงกรานต์ 5 วัน น่าจะมีจำนวน 5.1 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มขึ้น 28.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในช่วง
สงกรานต์ น่าจะมีมูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- กลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจรายไตรมาส ที่จัดทำโดยศูนย์ญี่ปุ่นเพื่อการวิจัยเศรษฐกิจ (JCER) และสำนักข่าวนิกเกอิ
คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของไทยและมาเลเซีย มีแนวโน้มที่จะขยายตัวแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวภาคการท่อง
เที่ยวและการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิด-19 ของจีน
- น้ำมันดิบตะวันออกกลาง มีแนวโน้มจะตึงตัวมากขึ้นตั้งแต่เดือนพ.ค. เป็นต้นไป หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค)
และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัส ประกาศแผนลดกำลังการผลิตอีกครั้ง ส่งผลให้โรงกลั่นจากเอเชียไปจนถึงยุโรปมีต้นทุนเพิ่มขึ้น และผลัก
ดันให้ต้องแสวงหาซัพพลายเพิ่มเติมจากรัสเซีย, แอฟริกา และทวีปอเมริกา
- นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน ระบุว่า สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) มีศักยภาพที่จะไปถึง 96 ดอลลาร์/บาร์เรล ภาย
ในสิ้นปีนี้ และเสริมว่า การปรับลดการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอกเปกพลัสเป็นมาตรการป้องกัน เพื่อไม่ให้ภาวะปริมาณน้ำมันดิบส่วนเกินใน
ตลาดดำเนินต่อไปจนถึงครึ่งหลังของปี 66
- เอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยในวันนี้ (3 เม.ย.) ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหภาพ
ยุโรป (อียู) ปรับตัวลดลงในเดือนมี.ค.