นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.25 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็น วานนี้ที่ระดับ 34.41 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทแข็งค่าเทียบท้ายตลาด เนื่องจากเมื่อคืนนี้ดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลง และสกุลเงินดอลลาร์โดนเทขายต่อเนื่อง ด้านสกุลเงินในภูมิภาคเช้านี้ เคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทาง
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 34.10 - 34.35 บาท/ดอลลาร์ ภาพใหญ่ตลาดรอติดตาม ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค. ของสหรัฐฯ วันศุกร์นี้ (7 เม.ย.)
THAI BAHT FIX 3M (3 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.66463% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.85821%
SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 34.27000 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 132.65 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 133.47 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0897 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0845 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท. อยู่ที่ระดับ 34.399 บาท/ดอลลาร์
- "นักวิเคราะห์" เชื่อการเลือกตั้ง-เศรษฐกิจฟื้น หนุนดัชนีหุ้นไทยไตรมาส 2/66 แตะ 1,642 จุด คาดสิ้นปีนี้อยู่ที่ 1,707
จุด แนะพรรคการเมือง กระตุ้นเศรษฐกิจเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน-ชะลอการเก็บภาษีหุ้น-ฟื้นกองทุน แอลทีเอ
ฟกลับมา-สนับสนุนลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ดึงดูดต่างชาติลงทุน
- "เอ็กซิมแบงก์" ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย Prime Rate อีก 0.25% ต่อปี สู่ระดับ 6.25% ต่อปี ดีเดย์ 17 เม.ย. 66
ยันยังเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่ต่ำที่สุดในระบบ พร้อมอัดมาตรการ-โปรโมชั่นพิเศษช่วยเหลือลูกค้าเต็มสูบ ลุยเติมความรู้
เติมโอกาส และเติมทุน หวังช่วยรายย่อยให้สามารถปรับตัวอยู่รอดได้
- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (3 เม.
ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัชนีภาคการผลิตที่อ่อนแอ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 2,000 ดอลลาร์ในวันจันทร์ (3 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่า
ของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อบ่งชี้ทิศ
ทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยในวันอังคารจะมีการเปิด
เผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.พ. ขณะที่วันพุธจะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงาน
ภาคเอกชนเดือนมี.ค. จาก ADP ส่วนในวันพฤหัสบดีจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และในวันศุกร์จะเปิดเผยตัว
เลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.