รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ว่า จากเมื่อวันที่ 7 เม.ย.66 ไม่มีเอกชนรายใดมายื่นข้อเสนอเพื่อเข้าร่วมลงทุนโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต กทพ.จะพิจารณาทบทวนการดำเนินโครงการ โดยอาจดำเนินโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง (โครงการระยะที่ 1) ร่วมกับโครงการทางพิเศษสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ (โครงการระยะที่ 2) รวมเป็นโครงการเดียวเพื่อจูงใจให้เอกชนสนใจร่วมลงทุนมากยิ่งขึ้น โดยจะพิจารณามูลค่าลงทุนของโครงการ รวมทั้งระยะเวลาการให้สัมปทานเอกชนให้มีความสอดคล้องกับสภาะปัจจุบัน
โคงการดังกล่าวเป็นการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานทางถนนในจังหวัดภูเก็ตเพื่อรองรับการที่จังหวัดเข้าร่วมการคัดเลือกเพื่อเป็นเจ้าภาพงาน Specialize Expo 2028 ซึ่งเป็นงานมหกรรมใหญ่ระดับโลกที่จะจัดขึ้นในปี 2571
รายงานข่าว กทพ. ระบุว่า ทางพิเศษสายกระทู้-ป่าตอง มีบริษัทเอกชนไทยและบริษัทเอกชนต่างชาติซื้อเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนรวมทั้งสิ้น 13 ราย แต่ไม่มีรายใดยื่นข้อเสนอ คาดว่ามีสาเหตุเนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากสถานการณ์ต่างๆ อาทิ โรคระบาดจากเชื้อไวรัส Covid-19 ที่ส่งผลกระทบระยะยาว สงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ทำให้กระทบต่อต้นทุนการก่อสร้างจากเดิมเมื่อปี 64 ได้ประมาณการไว้ในปีที่เริ่มก่อสร้างจำนวน 8,878 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10% จึงทำให้ไม่จูงใจเอกชนในการตัดสินใจเข้าร่วมลงทุนโครงการเท่าที่ควร
โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ระยะทางรวม 3.98 กิโลเมตร วงเงินลงทุนกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท เปิดขายเอกสารสำหรับคัดเลือกเอกชน (RFP) ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.65-25 ม.ค.66 เอกชที่เข้าซื้อซอง RFP 13 ราย ได้แก่ บมจ.ช.การช่าง (CK), บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM), บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS), บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง (DMT), บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวลอปเม้นท์ (ITD), บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) , บริษัท ไชน่า ฮาร์เบอร์ จำกัด, บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) , บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR), บมจ.ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง (RT), SRBG Bridge Engineering, ไชน่า เรลเวย์ 20 บิวโร กรุ๊ป และ Egis Civil Engineering เป็นต้น