ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจเอเชียและยุโรปที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จะช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐได้
นายราจัต แน็ก กรรมการผู้จัดการทั่วไปของ ADB กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศของสิงคโปร์ว่า "ผมคิดว่ามุมมองว่าเศรษฐกิจโลกจะถดถอยเป็นการมองในด้านลบมากเกินไป เราควรจะประเมินภาพเศรษฐกิจตามความเป็นจริงว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะถดถอย ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่น"
"เอเชียจะเป็นกลไกหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก แต่เราคาดว่าอัตราการขยายตัวโดยเฉลี่ยของกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาในเอเชียซึ่งไม่นับรวมญี่ปุ่นและออสเตรเลีย จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 7.6% ในปีนี้ จากปีที่แล้วที่ระดับ 8.7%" นายราจัตกล่าว
"เราคาดว่าเศรษฐกิจเอเชียจะขยายตัวขึ้นในอัตรา 7.8% ในปี 2552 เพราะเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2551 เศรษฐกิจเอเชียจะไม่ได้รับผลกระทบมาจากสหรัฐ แม้ว่าสหรัฐจะเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียก็ตาม" เขากล่าว
นายราจัตยังกล่าวด้วยว่า อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในเอเชียทำให้เอดีบีวิตกกังวลมากขึ้น โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในเอเชียจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.1% ในปีนี้ ซึ่งเป็นระดบสูงสุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้น
"เอเชียเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะงินเฟ้อมากกว่าภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว การพุ่งขึ้นของราคาข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักของคนเอเชียกลายเป็นปัญหาใหญ่มาก ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประชาชนในเอเชียกว่า 600 ล้านคน"
"รัฐบาลในภูมิภาคเอเชียพยายามช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากราคาอาหารที่สูงขึ้นและไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการควบคุมราคาอาหาร การควบคุมราคาข้าวจะทำให้รายได้ของเกษตรกรลดน้อยลง ซึ่งขณะนี้เกษตรกรได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากต้นทุนการผลิตที่พุ่งสูงขึ้น อาทิ ต้นทุนราคาปุ๋ย เชื้อเพลิง และต้นทุนขนส่ง" นายราจัตกล่าว สำนักข่าวซินหัว ไฟแนนซ์รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--