ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า (17-21 เม.ย.) ไว้ที่ระดับ 34.00-34.50 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ (Flow) และสกุลเงินเอเชีย ผลการประชุมธนาคารกลางออสเตรเลียและธนาคารกลางอินโดนีเซีย และการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนเม.ย. ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค.ของยูโรโซนและอังกฤษ ข้อมูล PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนเม.ย. ของประเทศเศรษฐกิจหลัก รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจจีน อาทิ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2566 การผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.
สัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทเผชิญแรงขายช่วงแรก แต่ลดช่วงอ่อนค่าบางส่วนกลางสัปดาห์ ก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวของตลาดในประเทศเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ เงินบาทอ่อนค่าลงท่ามกลางแรงหนุนของเงินดอลลาร์ ในช่วงต้นสัปดาห์จากโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในการประชุม FOMC เดือนพ.ค. หลังข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังมีสัญญาณดีต่อเนื่อง นอกจากนี้การอ่อนค่าลงของเงินเยนและเงินหยวนก็กดดันทิศทางสกุลเงินเอเชียในภาพรวมด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดีเงินบาทฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในช่วงกลางสัปดาห์ตามราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์เผชิญแรงกดดันจากการขายเพื่อปรับโพสิชันก่อนการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ
ในวันพุธที่ 12 เม.ย.66 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 34.23 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับ 34.07 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (7 เม.ย.) เงินบาทอ่อนค่าท่ามกลางการคาดการณ์ถึงโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือนพ.ค.แต่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนตามแรงขายเงินดอลลาร์ ก่อนการรายงานข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ และก่อนวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์