ดอลล์อ่อนค่าเกือบแตะระดับต่ำสุดเทียบยูโร เหตุคาดธนาคารกลางยุโรปตรึงดอกเบี้ย

          เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเกือบแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เทียบเงินยูโรในการซื้อขายช่วงบ่ายวันนี้ (22 เม.ย.) หลังมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะไม่ลดดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
          นายคลอส ลิบเชอร์ หนึ่งในคณะกรรมการธนาคารกลางยุโรปกล่าวว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี เพื่อลดแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ
          "ถ้อยแถลงดังกล่าวหนุนให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้น" โทโมโกะ ฟูจิอิ หัวหน้านักยุทธศาสตร์เศรษฐกิจจากแบงค์ ออฟ อเมริกา ในโตเกียว กล่าว "กระแสคาดการณ์ดังกล่าวมีผลต่อตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรามาก"
          อย่างไรก็ตาม มีกระแสคาดการณ์ในวงกว้างว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยเพื่อลดภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยราว 0.25% ในเดือนนี้ รวมถึงอีก 0.25-0.5% ในเดือนมิ.ย.และ ส.ค.         
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ เงินยูโรซื้อขายที่ระดับ 1.5915 ดอลลาร์ต่อยูโร เกือบแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.5983 ดอลลาร์ต่อยูโรเมื่อวันที่ 20 เม.ย. และเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยจากระดับ 1.5914 ดอลลาร์ต่อยูโรในช่วงเช้าที่ตลาดออสเตรเลีย        
          ในขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์อยู่ที่ระดับ 103.03 เยนต่อดอลลาร์ ลดลงจาก 103.22 เยนต่อดอลลาร์         
          ด้านดัชนีราคาผู้บริโภคในกลุ่มยูโรโซนมีการขยายตัว 3.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2535 และมากกว่าที่ธนาคารกลางยุโรปตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายตัวเพียง 2%          
          "ธนาคารกลางยุโรปน่าจะตรึงดอกเบี้ยต่อไปอีกอย่างน้อย 2 เดือน" มาร์ก วัน หัวหน้านักวิเคราะห์จากฮั่งเส็ง อินเวสเมนท์ เซอร์วิสเซส กล่าว                    
          ธนาคารกลางยุโรปตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 4% มาตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ในขณะที่เฟดลดดอกเบี้ยไปแล้วกว่า 3% ตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว จนปัจจุบันเหลือ 2.25%     
          อีกปัจจัยที่ฉุดให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงคือกระแสคาดการณ์ที่ว่า ตัวเลขยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.ของสหรัฐที่จะได้รับการเปิดเผยในคืนนี้ จะแสดงให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ย่ำแย่ลงกว่าเดิม และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในที่สุด