นับตั้งแต่จีนเปิดประเทศในช่วงต้นปี 66 จำนวนนักท่องเที่ยวจีน และความต้องการสินค้าจากประเทศจีนมีสัญญาณดีขึ้น โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาเที่ยวไทยในปี 66 สูงถึง 5.3 ล้านคน โดยครึ่งปีแรก กำลังซื้อยังเป็นไปอย่างจำกัด และจะเริ่มดีขึ้นชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง เช่นเดียวกับการส่งออกสินค้าจากไทยไปจีน ซึ่งจะทยอยหดตัวน้อยลงในครึ่งแรกของปี ก่อนจะพลิกกลับมาเป็นบวกได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้การส่งออกสินค้าของไทยไปจีนขยายตัว 0.2% ในปีนี้
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีทีบี (ttb analytics) มองว่า เศรษฐกิจจีนเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น หลังจีนทยอยเปิดเมืองในช่วงกลางปี 65 และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการของจีนนับแต่ต้นปี 66 ที่ผ่านมา ทำให้เศรษฐกิจจีนมีทิศทางฟื้นตัวชัดเจนขึ้นจากแรงส่งของภาคบริการเป็นหลัก ซึ่งภาพรวมการฟื้นตัวยังไม่เต็มที่ เนื่องจากรายได้ที่แท้จริงของชาวจีนยังไม่เข้มแข็ง
อย่างไรก็ตาม ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นปัจจัยฉุดรั้งเศรษฐกิจจีนมาอย่างต่อเนื่อง ก็เริ่มมีสัญญาณดีขึ้นค่อนข้างเร็วนับแต่เดือนม.ค. 66 เช่นกัน โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการที่อยู่อาศัย สะท้อนจากมูลค่าการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ และการนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทโลหะจากตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น คาดว่าปี 66 นี้ กิจกรรมภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนจะยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ โดยจะยังหดตัวในครึ่งแรกของปี 66 ก่อนจะกลับมาขยายตัวได้ในครึ่งปีหลัง และจะกลับเข้าสู่ระดับปกติได้ในปี 67
ดังนั้น การเข้าสู่ทิศทางขาขึ้นดังกล่าวของเศรษฐกิจจีน จึงถือเป็นข่าวดีสำหรับเศรษฐกิจโลกโดยรวม โดยเฉพาะเศรษฐกิจไทยที่มีความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจีนในระดับสูง ย่อมได้รับผลดีทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งจากภาคการท่องเที่ยว และการส่งออกสินค้าที่ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง ประกอบกับการฟื้นตัวพร้อมๆ กันของคู่ค้าสำคัญของไทยในอาเซียนก็เป็นผลดีทางอ้อม ที่จะช่วยเสริมโมเมนตัมต่อภาคการผลิตและการส่งออกสินค้าของไทย
*เศรษฐกิจจีนฟื้นหนุนท่องเที่ยวไทย คาดนักท่องเที่ยวจีนแตะ 5.3 ล้านคน
ภาคการท่องเที่ยวในช่วงก่อนวิกฤตโควิด-19 (ปี 60-62) จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย เฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 9 แสนคน หรือทั้งปีอยู่ที่ราว 10 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 28% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้าทั้งหมด สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้ประเทศไทยเฉลี่ยเดือนละ 44,000 ล้านบาท หรือราว 528,000 ล้านบาทต่อปี คิดเป็น 29% ของรายได้จากการท่องเที่ยวของไทยทั้งหมด
ในช่วงหลังวิกฤตโควิด-19 ไทยยังคงเป็นเป้าหมายท่องเที่ยวหลักของชาวจีน สะท้อนได้จาก 3 อันดับแรก ของประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมเดินทางไปในช่วงครึ่งหลังของปี 65 คือ ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา และไทย ตามลำดับ ล่าสุดใน 2 เดือนแรกของปี 66 มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในไทยราว 247,000 คน จาก 8,000 คนในระยะเวลาเดียวกันของปี 65 และดีขึ้นจาก 127,000 คนในไตรมาส 4/65
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจีนเพิ่งอยู่ในระยะแรกของการเปิดประเทศ และสิ้นสุดนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ทำให้กำลังซื้อและยอดการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวของชาวจีนยังไม่กลับสู่ระดับปกติ โดยข้อมูลยอดการใช้จ่ายท่องเที่ยวภายในประเทศของชาวจีนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 65 ยังอยู่ที่ราว 80% ของยอดใช้จ่ายช่วงก่อนการเกิดวิกฤตโควิด-19
"ด้วยปัจจัยข้างต้น ttb analytics จึงคาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวไทยทั้งปี 66 อยู่ที่ 5.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นเร็วจากปีก่อนซึ่งมีอยู่เพียง 2 แสนคน และคาดว่าจะสร้างรายได้ภาคการท่องเที่ยวให้ไทยในปีนี้ ประมาณ 446,000 ล้านบาท" บทวิเคราะห์ระบุ
*ความต้องการสินค้าไทยจากจีน ทยอยดีขึ้นตั้งแต่ต้นปี 66
ด้านการส่งออกสินค้าของไทย จีนถือเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 2 ของไทย รองจากตลาดสหรัฐฯ โดยในช่วงปี 64-65 ยอดการส่งออกสินค้าจากไทยไปจีน เฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 35,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (12% ของมูลค่าส่งออกสินค้าของไทยทั้งหมด) เพิ่มขึ้นจากเฉลี่ยปีละ 29,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงก่อนวิกฤตโควิด-19
ส่วนประเภทสินค้าที่ไทยส่งออกไปจีนมากที่สุด 4 อันดับ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คือ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผลไม้ (ผลไม้สดแห้ง แช่เย็น และแช่แข็ง) และเม็ดพลาสติก
เมื่อพิจารณาจากข้อมูลล่าสุด ปริมาณการนำเข้าสินค้าของประเทศจีนจากทั่วโลก เริ่มกลับมาขยายตัวได้เล็กน้อย นับตั้งแต่ช่วงปลายปี 65 โดยในเดือนก.พ. 66 ยอดนำเข้าสินค้าของจีนจากทั่วโลกกลับมาเป็นบวกที่ 5.6% โดยเฉพาะการนำเข้าจากกลุ่มประเทศอาเซียนที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และกำลังฟื้นตัวต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จะส่งผลดีทางอ้อมให้การผลิตและการส่งออกสินค้าไทยฟื้นตัวได้เข้มแข็งขึ้น สอดคล้องกับการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นสะท้อนความต้องการสินค้าภายในประเทศจีนที่กำลังฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งจากภาคธุรกิจที่นำไปผลิตสินค้าเพื่อส่งออกตามผลสำรวจภาวะภาคการผลิต (NBS) โดยภาวะคำสั่งซื้อสำหรับส่งออก และการสะสมสินค้าคงคลังของจีนเริ่มกลับมาขยายตัว และความต้องการสินค้าเพื่ออุปโภคบริโภคจากครัวเรือนจีนที่ฟื้นตัวต่อเนื่องเช่นกัน สะท้อนได้จากยอดค้าปลีกในเดือนก.พ. และมี.ค. ของปี 66 นี้ ที่กลับมาขยายตัว 3.5% และ 10.6% ตามลำดับ
จากปัจจัยข้างต้น ttb analytics มองว่า ความต้องการสินค้าของไทยจากประเทศจีน จะทยอยปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปนับแต่ต้นปี 66 นี้ แม้ครึ่งปีแรกจะยังหดตัวอยู่ที่ 10.8% แต่จะพลิกกลับมาขยายตัวได้ที่ 12.9% ในครึ่งปีหลัง ทำให้ทั้งปี 66 มูลค่าส่งออกไปจีนจะอยู่ในระดับทรงตัวจากปีก่อนซึ่งหดตัว 7.7%
ด้านรายสินค้าที่ส่งออกไปจีน มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางจะขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะขยายตัว 6% สำหรับมูลค่าการส่งออกมันสำปะหลังจะขยาย 4% อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าหมวดผลไม้ และเม็ดพลาสติกมีทิศทางชะลอตัวจากผลของฐานราคาที่สูงในปีก่อน แต่ในแง่ปริมาณมีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่ยังต้องใช้เวลา
"การเปิดประเทศของจีนในต้นปี 66 นี้ ถือเป็นข่าวดีต่อความเชื่อมั่นทั่วโลก และช่วยส่งเสริมโมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางการชะลอตัวลงของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก (สหรัฐฯ ยุโรป และอังกฤษ) แต่ด้วยปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจมหภาคของจีน โดยเฉพาะรายได้ที่แท้จริงที่ยังไม่เข้มแข็งมากนัก จึงอาจต้องรอเวลาถึงครึ่งหลังของปี 66 จึงจะได้เห็นผลที่ชัดเจนขึ้น ทั้งต่อการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีน และการส่งออกสินค้าของไทย" บทวิเคราะห์ ระบุ