(เพิ่มเติม) พาณิชย์เผยส่งออกมี.ค.51 โต 14.4% นำเข้าโต 32.7% เกินดุล 160 ล้านดอลล์

          นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนมี.ค.51 โต 14.4% คิดเป็นมูลค่า 14,765 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขการส่งออกที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การนำเข้าโต 32.7% คิดเป็นมูลค่า 14,605 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ในเดือนมี.ค.51 ไทยเกินดุลการค้า 160 ล้านดอลลาร์
          ทั้งนี้การส่งออกในเดือนมี.ค.ที่ขยายตัวสูงเป็นเพราะสินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมการเกษตร ขยายตัวสูงถึง 32% มูลค่า 2,465 ล้านเหรียญ โดยสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น ข้าว 143.8% อาหารทะเลกระป๋อง 29.6% ยางพารา 23.9% ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 39.7% ส่วนสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 11.8% มูลค่า 9,694 ล้านเหรียญ สินค้าที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นเกิน 15% เช่น ยานยนต์และส่วนประกอบ, เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก, อัญมณีและเครื่องประดับ, ผลิตภัณฑ์ยาง, สิ่งพิมพ์และกระดาษ เป็นต้น 
          ส่วนสาเหตุที่การนำเข้าในเดือนมี.ค. สูงถึง 32.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นเพราะนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิง เพิ่มขึ้น 64.7% สินค้าทุน เพิ่มขึ้น 24.5% สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป เพิ่มขึ้น 30.1% สินค้าอุปโภคบริโภค เพิ่มขึ้น 29.6% และสินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง เพิ่มขึ้น 30.3% 
          "มูลค่าการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นมากเป็นเพราะราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งน้ำมันมีสัดส่วนการนำเข้าสูงถึง 21% จากเดิมที่ประมาณ 10% เท่านั้น จึงต้องติดตามดุลการค้าในเดือนต่อๆ ไปอย่างใกล้ชิดว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น การผลิตเพื่อส่งออกก็เพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก" นายศิริพล กล่าว 
          ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงภาวะการค้าโดยรวมในช่วงไตรมาส 1/51 ว่า การส่งออกของไทย ขยายตัว 20.8% ที่มูลค่า 41,716 ล้านดอลลาร์ การนำเข้าโต 38% มูลค่า 42,898 ล้านดอลลาร์ ทำให้ช่วงไตรมาส 1/51 ไทยขาดดุลการค้า 1,182 ล้านดอลลาร์
          ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ยังเชื่อว่าการส่งออกทั้งปี 51 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโต 12.5%
          ด้านนายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า ในเดือนมี.ค. การส่งออกไปยังตลาดหลักและตลาดใหม่ เพิ่มขึ้น 6.3% และ 24.1% ตามลำดับ โดยตลาดหลักสำคัญที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ อาเซียน 19.3% สหภาพยุโรป 8.2% แต่สหรัฐฯ และญี่ปุ่น มูลค่าส่งออกลดลงเป็นเดือนแรก โดยสหรัฐฯ ลดลง 2.2% สินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องรับโทรทัศน์ ส่วนญี่ปุ่น ลดลง 1.5% สินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ
          ขณะที่ตลาดใหม่ที่ส่งออกได้เพิ่มขึ้น เช่น แอฟริกา 85.2% อินโดจีนและพม่า 54.4% ฮ่องกง 36.3% จีน 24.4% ลาตินอเมริกา 23.4% ยุโรปตะวันออก 7.7% และอินเดีย 15.6% 
          "การส่งออกไปตลาดใหม่เพิ่มขึ้น เพราะกระทรวงพาณิชย์ทุ่มเทส่งออกไปยังตลาดใหม่เริ่มเห็นผลแล้ว แต่ตลาดสหรัฐฯ ก็ยังไปได้ดี แม้เดือนมี.ค.จะติดลบ แต่ 3 เดือนแรกขยายตัว 7.1% จากเป้าหมายทั้งปีขยายตัว 2%" นายราเชนทร์ ระบุ