นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวและมันสำปะหลังของไทยในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง โดยการส่งออกสินค้าข้าวมีปริมาณ 2.06 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 18.48% หรือ 321,625 ตัน ขณะที่มีมูลค่า 38,066 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.26% หรือ 8,616 ล้านบาท โดยมีตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ อิรัก คิดเป็น 16.38% ของปริมาณส่งออกข้าวไทยทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ อินโดนีเซีย สัดส่วน 13.08%, สหรัฐอเมริกา สัดส่วน 8.62%, แอฟริกาใต้ 8.24% และเซเนกัล 5.86%
สาเหตุที่การส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นมากเป็นผลจากประเทศในภูมิภาคเอเชียและแอฟริกา เช่น อินโดนีเซีย บังกลาเทศ อิรัก แอฟริกาใต้ และเซเนกัล ยังคงมีความต้องการนำเข้าข้าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการข้าวในประเทศ และรักษาความมั่นคงทางอาหาร ประกอบกับในปีนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์ว่า ปริมาณผลผลิตข้าวไทยจะเพิ่มขึ้นจากปริมาณน้ำที่เพียงพอ โดยผลผลิตข้าวนาปรังจะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้ ทำให้ราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ แม้ราคาข้าวขาวของไทยยังสูงกว่าเวียดนามประมาณตันละ 60 ดอลลาร์
ส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังมีปริมาณ 3.29 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.17% หรือ 220,000 ตัน ขณะที่มีมูลค่า 39,982.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.81% หรือ 1,834.15 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกสำคัญ 3 อันดับแรก ได้แก่ มันเส้น/มันอัดเม็ด ส่งออกได้ 1.74 ล้านตัน สัดส่วน 53.06% ของปริมาณการส่งออกมันสำปะหลังทั้งหมด ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ จีน สัดส่วน 98.64%, เนเธอร์แลนด์ 0.86%, มาเก๊า 0.36% และญี่ปุ่น 0.08%
ส่วนอันดับ 2 คือ แป้งมันสำปะหลัง 1.44 ล้านตัน สัดส่วน 43.82% ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ จีน สัดส่วน 47.20%, ญี่ปุ่น 11.28%, อินโดนีเซีย 8.06%, มาเลเซีย 4.81%, สหรัฐอเมริกา 4.18% และเกาหลีใต้ 3.38% ขณะที่อันดับ 3 คือ กากมัน/สาคู 102,648 ตัน สัดส่วน 3.12% ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เกาหลีใต้ สัดส่วน 36.43%, จีน 21.39%, นิวซีแลนด์ 18.32% และบังกลาเทศ 2.47%
นอกจากนี้กรมฯ ยังได้ผลักดันมูลค่าการค้าของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยขับเคลื่อนผ่านการค้าชายแดน-ผ่านแดนในปี 66 เช่น โครงการขยายการค้าการลงทุนชายแดนและเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ให้มีการค้าการลงทุนชายแดนและประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดตามแนวชายแดนและพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนสร้างและขยายเครือข่ายการค้าระหว่างผู้ประกอบการไทยและประเทศเพื่อนบ้าน และเพิ่มช่องทางการค้าและโอกาสทางการตลาดสินค้าและบริการของไทยในตลาดประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ กรมฯ ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมและผลักดันการค้าชายแดน 3 โครงการ คือ มหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ด้านเมียนมา/ด้านกัมพูชา (กาญจนบุรี หรือสระแก้ว หรือตราด) ในช่วงเดือน มิ.ย.นี้, มหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ด้านลาว (เชียงราย หรือตาก หรือหนองคาย หรือมุกดาหาร หรือนครพนม) ช่วงเดือน ก.ค.นี้ และมหกรรมการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย ช่วงเดือน ส.ค.นี้ โดยตั้งเป้าหมายมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนในปีนี้ไว้ที่ 1.060 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปี 65 ที่มีมูลค่า 1.029 ล้านล้านบาท