นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่รุนแรงขึ้น ส่งผลให้เกิดภัยธรรมชาติและสร้างมูลค่าความเสียหายทั่วโลกเพิ่มมากขึ้นตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมานั้น EXIM BANK จึงได้พัฒนาบริการใหม่ "สินเชื่อ EXIM Green Start" สำหรับธุรกิจที่ใส่ใจในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยวงเงินหมุนเวียนสูงสุด 200 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลากู้สูงสุด 3 ปี
โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น Prime Rate -2.25% ต่อปี หรือประมาณ 4% ต่อปี ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยของธุรกิจทั่วไป และแถมฟรี วงเงินสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Foreign Exchange Forward Contract) 1 เท่าของวงเงินสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติ เพื่อปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนให้แก่ผู้ส่งออกไทย
นอกจากนี้ EXIM BANK ได้ปรับปรุงบริการ "สินเชื่อ EXIM Export Ready Credit" หรือสินเชื่อเอ็กซิมเติมทุนส่งออก โดยเพิ่มวงเงินสูงสุดจาก 5 ล้านบาทต่อราย เป็น 20 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น Prime Rate -2.00% ต่อปี หรือประมาณ 4.25% ต่อปี และเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการที่มีการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อม ให้ได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ต่อปีในปีแรก
"EXIM BANK เป็นสถาบันการเงินแห่งแรก ที่เริ่มนำวัตถุประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อมของร่างมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย (Thailand Taxonomy) มาปรับใช้ในการพิจารณาสินเชื่อ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานของประเทศที่กำลังจะประกาศออกมาในปีนี้" นายรักษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออก สามารถยื่นขอสินเชื่อ EXIM Green Start และสินเชื่อ EXIM Export Ready Credit ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 เมษายน 2567
นายรักษ์ กล่าวว่า สินเชื่อทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นี้ มีเป้าหมายเพื่อเสริมสภาพคล่องธุรกิจไทย รวมถึง SMEs ให้มีความพร้อมที่จะพัฒนากระบวนการผลิตสินค้าและการบริการที่ขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน เสริมสร้างเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) ตามนโยบายรัฐบาล และการดำเนินงานธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยแข่งขันได้ในเวทีการค้าระหว่างประเทศ โดยไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการทางการค้าระหว่างประเทศที่เข้มงวดเรื่องการปฏิบัติตามเกณฑ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น สหภาพยุโรป มีกำหนดเริ่มทดลองใช้มาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (CBAM) ในปี 2566 เป็นต้น
นอกจากนี้ EXIM BANK ยังมีสินเชื่อหลากหลายรูปแบบ ตอบสนองความต้องการของธุรกิจ รวมทั้งการยกระดับธุรกิจไทยให้ได้มาตรฐานสากลด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ สินเชื่อ Solar Orchestra ที่ให้เงินทุนติดตั้ง Solar Rooftop เชื่อมโยงกับ Ecosystem ตลาดคาร์บอน โครงการประหยัดพลังงานผ่านสินเชื่อ EXIM Kill Bill by Biz Transformation เงินทุนสำหรับการเปลี่ยนอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน เป็นต้น
"EXIM BANK สนับสนุนการยกระดับธุรกิจไทยทุกขนาด สู่ BCG Model นำไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ตามนโยบายรัฐบาลสอดรับกับเจตนารมณ์ของประชาคมโลก ที่จะพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า สร้างมูลค่าเพิ่มของทรัพยากรธรรมชาติ รักษาความสมดุลของการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม" กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าว