ญี่ปุ่นเผยยอดเกินดุลการค้าเดือนมี.ค.ร่วง 30.2% เหตุราคาน้ำมันพุ่ง

          กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลการค้าของญี่ปุ่นในเดือนมี.ค.2551 ร่วงลง 30.2% จากระดับในปีก่อนหน้านี้ แตะ 1.12 ล้านล้านเยน (1.09 หมื่นล้านดอลลาร์) เมื่อเปรียบเทียบกับระดับ 1.60 ล้านล้านเยนในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 1.36 ล้านล้านเยน เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดส่งออกขยายตัวน้อยที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี
          ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 2.3% แตะ 7.68 ล้านล้านเยน นับเป็นสถิติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2548 ซึ่งยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 1.4% ส่วนยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 11.1% แตะ 6.56 ล้านล้านเยน เนื่องจากยอดนำเข้าน้ำมันพุ่งขึ้น 51.6%
          เมื่อเทียบเป็นรายภูมิภาคแล้ว ญี่ปุ่นส่งออกสินค้าไปสหรัฐลดลง 11.0% นับเป็นสถิติปรับตัวลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2546 ซึ่งยอดส่งออกลดลง 21.1% และเป็นสถิติปรับตัวลดลงต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 7 ซึ่งนานที่สุดนับตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นได้ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกลดลงต่อเนื่องกัน 14 เดือนจนถึงเดือนก.พ.2547
          เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังกล่าวว่า แม้ว่ายอดส่งออกจะลดลง แต่รัฐบาลไม่สามารถสรุปได้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลงจะส่งผลกระทบต่อยอดส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ หรือไม่ แต่เราจำเป็นต้องระมัดระวังเอาไว้เพราะมีความเป็นไปได้
          ส่วนยอดส่งออกสินค้าไปยังประเทศอื่นๆในเอเชีย ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนมี.ค. แต่ขยายตัวต่ำกว่าระดับในเดือนก.พ.ที่ปรับตัวขึ้น 13.9% และนับเป็นสถิติที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2548 ซึ่งยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 1.5%
          ยอดส่งออกสินค้าไปยังจีนลดลง 3.2% จากระดับ 14.9% นับเป็นสถิติปรับตัวลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2548
          ขณะที่ยอดส่งออกไปสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น 3.6% ในเดือนมี.ค. แต่ต่ำกว่าระดับเดือนก.พ.ที่ขยายตัวขึ้น 7.2% สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน