ดอลล์แข็งค่าเทียบยูโรที่ตลาดออสเตรเลียเช้านี้ จากกระแสคาด ECB ขึ้นดบ.

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญๆ ที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้าวันนี้ (23 เม.ย.) โดยเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นจากที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินยูโรเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 08.10 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ระดับ 103.10 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 103.3 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่เงินยูโรเทรดกันที่ 1.5976 ดอลลาร์ต่อยูโรซึ่งอ่อนค่าจากระดับ 1.5995 ดอลลาร์ต่อยูโร
          โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา เงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระดับใหม่ทะลุระดับ 1.6000 ดอลลาร์ต่อยูโรไปอยู่ที่ 1.6020 ดอลลาร์ต่อยูโร หลังจากที่เจ้าหน้าที่ ECB ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย 
          เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางเน้นย้ำว่า การควบคุมให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของธนาคารกลาง แม้ว่าการขยายตัวในประเทศเขตยูโรโซนจะชะลอตัวลง และยังเผชิญภาวะความปั่นป่วนวุ่นวายในตลาดเงินอยู่ก็ตาม
          สถานการณ์เหล่านี้มีขึ้นหลังจากที่ข้อมูลในตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐในเดือนมี.ค.ออกมาซบเซา และจากถ้อยแถลงของนายริชาร์ด ฟิสเชอร์ เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายหนึ่งที่กล่าวว่า เศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกยาวนาน
          จอห์น นูนาน นักวิเคราะห์จากธอมสัน รอยเตอร์ ไอเอฟอาร์ มาร์เก็ตส์กล่าวว่า ในที่สุดเงินยูโรก็พุ่งทะลุระดับ 1.60 จุดเมื่อคืนนี้ ส่งผลให้ตลาดจับตาความเป็นไปได้ในการที่ ECB จะยื่นมือเข้าแทรกแซงการซื้อขายเงินยูโร
          ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ ECB จะเริ่มปรับดอกเบี้ยลงในปลายปีนี้ โดยในช่วงเช้า นักลงทุนมองว่า ECB อาจขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งหรือมากกว่านั้น ขณะที่เฟดจะลดดอกเบี้ยต่อไปอีก หลังจากที่ลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในสัปดาห์หน้า
          จอห์นกล่าวว่า ธนาคารกลางในภูมิภาคจะยังคงเข้าซื้อเงินยูโรที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ธนาคารถือครองเงินยูโรซึ่งปลอดความเสี่ยงมากกว่าเป็นระยะเวลานาน