นายหลี่ กัง หัวหน้านักวิเคราะห์ประจำกระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวให้สัมภาษณ์กับมาร์เก็ต นิวส์ อินเตอร์เนชั่นแนลในวันนี้ว่า เขาคาดว่ายอดเกินดุลการค้าระหว่างจีนและประเทศในสหภาพยุโรปนั้นจะเป็นเพียงปรากฏการณ์ในระยะสั้น และคาดว่ายอดเกินดุลการค้าระหว่างจีนและประเทศยุโรปจะปรับตัวลดลง เนื่องจากสกุลเงินยูโรมีแนวโน้มอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์
"เราคิดว่าขณะนี้สกุลเงินยูโรเคลื่อนไหวแบบที่ไม่สอดคล้องกับดอลลาร์สหรัฐ เพราะยูโรแข็งค่าเกินไป สถานการณ์เช่นนี้ทำให้รัฐบาลจีนใช้มาตรการรับมือกับการพุ่งขึ้นของยอดเกินดุลการค้าระหว่างจีนและประเทศยุโรป เพื่อให้ยอดเกินดุลปรับตัวลดลง" นายหลี่กล่าว
"แต่เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น เราจึงเชื่อว่าสกุลเงินยูโรจะอ่อนค่าลง ด้วยเหตุนี้เราจึงมองว่ายอดเกินดุลการค้าระหว่างจีนและสหรัฐยุโรปจึงเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะสั้นๆ ซึ่งคาดว่าจะไม่นานเกิน 1 ปี" เขากล่าว
อียูเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของจีนมาตั้งแต่ปี 2549 โดยการค้าระดับทวิภาคีของทั้ง 2 ฝ่ายคิดเป็นสัดส่วน 17% ของยอดนำเข้าและยอดส่งออกโดยรวมของจีน แต่เมื่อไม่นานมานี้ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างอียูและจีนซึ่งเป็นผลมาจากค่าเงินหยวนที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับยูโรนั้น ทำให้ยอดเกินดุลการค้าระหว่างจีนและยูโรพุ่งสูงขึ้น
นายหลี่กล่าวว่า ค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นทำให้บริษัทจีนใช้สกุลเงินยูโรในการทำธุรกรรมส่งออกมากขึ้น สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--