กบร.อัพคุณสมบัตินายช่างภาคพื้นดินเทียบสากล-ปรับปรุงแผนรักษาความปลอดภัยการบิน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 8, 2023 18:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม รักษาราชการแทน รมว.คมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 โดยมีมติที่ประชุมที่สำคัญ ดังนี้

1. ร่างข้อบังคับของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ฉบับที่ ... ว่าด้วยคุณสมบัติและสิทธิทำการของผู้ขออนุญาตเป็นผู้ประจำหน้าที่นายช่างภาคพื้นดิน เพื่อพัฒนาและยกระดับกฎระเบียบด้านมาตรฐานคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตเป็นผู้ประจำหน้าที่นายช่างภาคพื้นดิน รวมถึงสิทธิทำการของผู้ได้รับใบอนุญาตให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ลดขั้นตอนให้เกิดความสะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) จึงเสนอ กบร. เพื่อยกเลิกข้อบังคับฉบับเดิม (ข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน ฉบับที่ 77 ว่าด้วยคุณสมบัติและสิทธิทำการของผู้ขออนุญาตเป็นนายช่างภาคพื้นดิน บังคับใช้เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2551) และขอความเห็นชอบร่างข้อบังคับของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ฉบับที่ ... ว่าด้วยคุณสมบัติและสิทธิทำการของผู้ขออนุญาตเป็นผู้ประจำหน้าที่นายช่างภาคพื้นดิน ซึ่งเป็นร่างข้อบังคับฉบับใหม่แทน

การปรับปรุงร่างข้อบังคับฉบับนี้ เทียบเคียงกับมาตรฐานของสำนักงานความปลอดภัยการบินแห่งสหภาพยุโรป (EASA), Part-66 Aircraft Maintenance License (AML) ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อันจะส่งผลดีกับประเทศไทย ในการยกระดับมาตรฐานผู้ถือใบอนุญาตนายช่างภาคพื้นดินและอุตสาหกรรมการบิน ทำให้ช่างซ่อมอากาศยานของไทยที่ถือใบอนุญาตมีมาตรฐานคุณสมบัติเทียบเคียงสากล ยกระดับมาตรฐานข้อบังคับให้เป็นปัจจุบัน และมีมาตรฐานชัดเจนเทียบเท่านานาชาติ รวมถึงสามารถปฏิบัติได้จริงอย่างเป็นระบบ

โดยร่างข้อบังคับ ฯ ได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น กลุ่มผู้ถือใบอนุญาตผู้ประจำหน้าที่ นายช่างภาคพื้นดินของสายการบิน ผู้ให้บริการหน่วยซ่อมอากาศยาน และสถาบันฝึกอบรมนายช่างภาคพื้นดิน รวมถึงประชาชนทั่วไป โดยผ่านช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ คือการประชุมเฉพาะกลุ่ม (Focus Group) และการรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์ของ CAAT

เมื่อร่างข้อบังคับ ฯ ผ่านการเห็นชอบจาก กบร.แล้ว ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จะดำเนินการออกข้อบังคับ ฯ และนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลใช้บังคับต่อไป โดยคาดว่าจะมีผลก่อนสิ้นปีนี้

2. การแก้ไขปรับปรุงแผนรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนแห่งชาติ ฉบับที่ 4

กรอบทางกฎหมายด้านการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ซึ่งบัญญัติไว้ในอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ค.ศ. 1944 (Convention on International Civil Aviation) หรืออนุสัญญาชิคาโก ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) กำหนดให้รัฐภาคีต้องจัดทำแผนรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนแห่งชาติ (National Civil Aviation Security Programme : NCASP) ซึ่งมีความสำคัญในระดับกฎหมายลำดับรอง เพื่อให้กิจการการบินของประเทศมีความมั่นคงปลอดภัย ปลอดจากการกระทำอันเป็นการแทรกแซงโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

ประเทศไทยได้จัดทำแผนรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนแห่งชาติ โดยได้รับการอนุมัติจาก กบร. มีผลใช้บังคับตั้งแต่ พ.ศ. 2559 เป็นต้นมา และได้มีการแก้ไขปรับปรุงแผนฯ เพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนของประเทศไทย อีกทั้งเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานจริงของผู้ดำเนินการรักษาความปลอดภัยด้านการบินพลเรือนเพิ่มมากขึ้นเป็นระยะมาอย่างต่อเนื่อง

การเสนอเพื่อปรับปรุงแก้ไขแผนฯ ครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 4 เพื่อยกระดับมาตรการการรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนของประเทศไทย ให้เป็นไปตามมาตรฐานและข้อพึงปฏิบัติล่าสุดของภาคผนวกที่ 17 ของอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ซึ่งเพิ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมล่าสุด (ครั้งที่ 18) ซึ่งนอกจากจะเป็นการปรับมาตรฐานของไทยให้สอดคล้องกับสากลแล้ว ยังสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อป้องกันปัญหาการตีความและความไม่ชัดเจน สำหรับผู้ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและแผนรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนแห่งชาติอีกด้วย

ทั้งนี้ ร่างปรับปรุงแก้ไขแผนฯ ดังกล่าว ได้ผ่านการกลั่นกรองและการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่อยู่ภายใต้บังคับแผนรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนแห่งชาติ และผู้ที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว


แท็ก คมนาคม  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ