ศูนย์วิจัยทองคำ ระบุ ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน พ.ค.66 อยู่ที่ระดับ 65.30 เพิ่มขึ้น 0.16 จุด หรือคิดเป็น 0.24% เมื่อเทียบกับเดือน เม.ย.66 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 65.14 จุด
นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ปัจจัยหนุนมาจากความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในสหรัฐฯ สถานการณ์สถาบันการเงินของสหรัฐฯ ความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอย และนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)
โดยคาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำในช่วงเดือน พ.ค.66 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 369 ราย ในจำนวนนี้มี 135 ราย หรือ 37% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำในเดือนนี้หรือไม่ ส่วนจำนวน 126 ราย หรือ 34% ไม่ซื้อทองคำ และจำนวน 108 ราย หรือ 29% ซื้อทองคำ
ความเห็นของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำจำนวน 13 ราย ในจำนวนนี้มี 7 ราย หรือ 54% เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน พ.ค.66 จะเพิ่มขึ้น ส่วนอีก 3 ราย หรือ 23% คาดว่าจะลดลง และจำนวน 3 ราย หรือ 23% คาดว่าใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือน เม.ย.
สำหรับการคาดการณ์ราคาทองคำในเดือน พ.ค.66 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ดังนี้ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,932-2,070 ดอลลาร์/ออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 31,500-33,100 บาท/น้ำหนัก 1 บาททองคำ และค่าเงินบาทให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 33.54-34.76 บาท/ดอลลาร์
คำแนะนำการลงทุนทองคำในเดือน พ.ค.66 ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ให้ความเห็นว่า ในระยะสั้นหากราคาทองแกว่งตัวในลักษณะทรงตัวและพยายามรักษาระดับราคาทองไว้ ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้ แต่หากไม่สามารถผ่านแนวต้านใดแนวต้านหนึ่งได้ อาจมีแรงเทขายทำกำไรออกมา โดยนักลงทุนที่ถือทองคำไว้อาจแบ่งทองคำออกขายทำกำไร เมื่อราคาปรับตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้าน เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในสถานการณ์ที่ราคาทองยังคงมีความผันผวน