นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เผยผลการจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือน เม.ย.66 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศจำนวน 6,041 ราย เพิ่มขึ้น 12% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน มูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 20,897.87 ล้านบาท ลดลง 88% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน
โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 434 ราย คิดเป็น 7.19% รองลงมา คือ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 405 ราย คิดเป็น 6.70% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 262 ราย คิดเป็น 4.34% ตามลำดับ โดยการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น 12.37% เมื่อเทียบกับเดือน เม.ย.65 และในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 มีจำนวนการจัดตั้งธุรกิจสูงสุดในรอบ 10 ปี (2557-2566) เป็นจำนวนมากถึง 32,223 ราย
สำหรับธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือน เม.ย.66 มีจำนวน 936 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 5,177.20 ล้านบาท ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 115 ราย คิดเป็น 12.29% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 53 ราย คิดเป็น 5.66% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 23 ราย คิดเป็น 2.46% ตามลำดับ
ส่งผลให้ยังมีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ 30 เมษายน 2566 จำนวน 871,041 ราย มูลค่าทุน 21.23 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นบริษัทจำกัด จำนวน 667,100 ราย คิดเป็น 76.59% ห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 202,544 ราย คิดเป็น 23.25% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,397 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า การจัดตั้งธุรกิจใหม่ 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย.66) อยู่ที่ 32,223 ราย เพิ่มขึ้นถึง 16.23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในเดือน เม.ย.66 มีแนวโน้มชะลอตัวลงไปบ้าง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากจำนวนวันทำการราชการที่น้อยกว่าเดือนก่อน และเป็นไปตามแนวโน้มปกติของการจดทะเบียนที่จะมีจำนวนจัดตั้งลดลงในเดือน เม.ย.
"ภาพรวมการจัดตั้งธุรกิจในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 มีจำนวนการจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยจากสถิติตั้งแต่ปี 2557 - 2566 นั้น เดือนเม.ย.66 มียอดการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจสูงสุดในรอบ 10 ปี รวมถึงเดือนม.ค. ก.พ. และมี.ค.ของปี 2566 มีการจัดตั้งธุรกิจสูงสุดในรอบ 10 ปี เช่นกัน ส่งผลให้สถิติการจัดตั้งธุรกิจใหม่ 4 เดือนแรก เพิ่มขึ้นถึง 16.23% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (ม.ค. - เม.ย. 65)" นายทศพล ระบุ
นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจหนึ่งที่ส่งผลต่อการเติบโตของการจัดตั้งธุรกิจในช่วง 4 เดือนแรกของปี 66 คือ ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวที่มีอัตราการจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้นถึง 1 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวและมีการจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 5.6 เท่า ธุรกิจตัวแทนการเดินทาง เพิ่มขึ้น 3.7 เท่า ธุรกิจจัดนำเที่ยว เพิ่มขึ้น 2.7 เท่า ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร เพิ่มขึ้น 68% และธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และห้องชุด เพิ่มขึ้น 41%
ซึ่งการเติบโตดังกล่าว คาดว่าเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ซึ่งสะท้อนผ่านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 66 อยู่ที่ประมาณ 42,000-45,000 ราย และตลอดทั้งปี 66 อยู่ที่ประมาณ 75,000-78,000 ราย