ร้านค้า"วอล-มาร์ท"สั่งลดการซื้อข้าว หลังราคาตลาดโลกพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

          ร้านค้าปลีกแซมคลับของบริษัทวอล-มาร์ท ได้ปรับลดปริมาณการสั่งซื้อข้าวบางชนิด หลังจากที่ราคาข้าวงวดส่งมอบเดือนก.ค.ที่ตลาดชิคาโก้พุ่งขึ้น 2.6% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 24.85 ดอลลาร์/ 100 ปอนด์ในวันนี้
          คริสตี้ รี้ด โฆษกหญิงของแซมคลับกล่าวในแถลงการณ์ที่แจ้งทางอีเมล์ว่า "การจำกัดการสั่งซื้อข้าวหอมมะลิ ข้าวบาสมาติ และข้าวขาวเมล็ดยาวที่มีขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มด้านอุปสงค์และอุปทานนั้น จะส่งผลกระทบต่อร้านค้าปลีกในสหรัฐทั้งหมดทันที" 
          ธนาคารโลกเปิดเผยในวันนี้ว่า ลูกค้าบางรายเริ่มที่จะกักตุนข้าว หลังจากราคาข้าวพุ่งสูงขึ้น ขณะที่ปริมาณผลผลิตข้าวมีจำนวนลดลง โดยจีน เวียดนาม อินเดีย และอียิปต์ได้ควบคุมราคาข้าวอย่างทั่วถึงเพื่อปกป้องอุปทานในประเทศและชะลอภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่ประเทศไทยเองก็ปรับลดการส่งออกด้วยเช่นกัน
          "ร้านค้าปลีกกำลังดำเนินการในแนวทางเดียวกันเพื่อปกป้องธุรกิจของพวกเขา เช่นเดียวกับภัตตาคารขนาดเล็ก ธุรกิจจัดเลี้ยง รวมถึงสถานพยาบาล และสถานรับเลี้ยงเด็ก" จิม ดีแกน ที่ปรึกษาด้านอาหารของบริษัทเจ.เอ็ม ดีเกน แอนด์ โคกล่าว "ธุรกิจต่างๆที่กล่าวมาถือเป็นลูกค้าสำคัญที่สุดในร้านเนื่องจากร้านค้าปลีกมีรายได้ที่งดงามจากลูกค้าประจำเหล่านี้"  
          อย่างไรก็ดี ร้านค้าปลีกอย่างคอสต์โค และแซมคลับมีระบบการจัดจำหน่ายที่กว้างขวาง อีกทั้งยังเป็นศูนย์การกระจายสินค้าไปยังร้านค้าต่างๆทั่วโลก ดังนั้น พวกเขาจะสามารถจัดสรรผลผลิตข้าวในสหรัฐได้ ซึ่งหมายความว่า การที่ลูกค้ามีจำนวนลดลงอาจไม่ใช่ปัญหาระยะยาวสำหรับพวกเขา
          "เรากำลังประสานงานกับซัพพลายเออร์ของเราเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นการรับประกันว่าเรามีสินค้าในสต็อก" รี้ด โฆษกหญิงจากแซมคลับกล่าว  
          ทั้งนี้ ภาวะขาดแคลนข้าวทั่วโลกจะเริ่มดีขึ้นในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวเดือนมิ.ย.นี้ และปัญหาดังกล่าวอาจได้รับการแก้ไขภายในปี 2552 เนื่องจากเกษตรกรได้ปรับเพิ่มปริมาณการเพาะปลูกเพื่อรองรับกับความต้องการ
          อย่างไรก็ตาม จากความเคลื่อนไหวล่าสุดของแซมคลับที่จำกัดการสั่งซื้อข้าวได้ส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดชิคาโก้พุ่งขึ้นอีก 0.9% ในเช้าวันนี้ โดยราคาข้าวในเดือนนี้ไต่ระดับสูงขึ้นถึง 26% แล้ว