นายสมศักดิ์ ปริศนานันนทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ ระบุไม่มีนโยบายที่จะเปิดประมูลซื้อปุ๋ย แต่จะใช้วิธีเจรจาซื้อขายระหว่างรัฐต่อรัฐ เพื่อป้องกันข้อครหาในเรื่องของผลประโยชน์เหมือนในอดีต โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำตอบถึงผลการเจรจาขอซื้อปุ๋ยยูเรียจากรัฐบาลจีนมูลค่า 300 ล้านบาท โดยเฉลี่ยตันละ 1 หมื่นบาท พร้อมกันนี้รัฐบาลยังส่งตัวแทนไปเจรจาขอซื้อปุ๋ยจากรัฐบาลอินโดนีเซียและยูเครนด้วย
นอกจากนี้ รัฐบาลจะเร่งส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยอินทรีย์เคมี แทนปุ๋ยเคมีที่ต้องนำเข้าให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดค่าต้นทุนได้ประมาณ 15%
ด้าน นายบัณฑิต ตันศิริ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า ได้สั่งการให้โรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์-ชีวภาพที่อยู่ในสังกัด 359 แห่งทั่วประเทศเร่งเพิ่มกำลังการผลิตให้ทันภายในเดือน ก.ค.นี้ โดยคาดว่า ภายในปีนี้จะสามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดได้จำนวน 5.1 หมื่นตัน และปุ๋ยน้ำอีก 1.5 ล้านลิตร ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาราคาปุ๋ยแพงให้แก่เกษตรกรได้
สำหรับปัญหาโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์-ชีวภาพชุมชนบางแห่งยังไม่สามารถผลิตปุ๋ยอินทรีย์ได้เต็มศักยภาพนั้น ตนเองได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล ซึ่งภายใน 3 เดือนหลังจากนี้จะต้องได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ขนาดเล็กปัญหาเงินทุน และวัตถุดิบนั้น ทางกรมพัฒนาที่ดินจะเร่งหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำมาช่วยเหลือ
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--