ปลัดกระทรวงคลัง-พลังงานร่วมหารือมาตรการระยะสั้นบรรเทาผลกระทบปัญหาน้ำมันแพงให้กับกลุ่มภาคขนส่ง โดยเฉพาะผู้ประกอบการในระบบขนส่งสาธารณะ เห็นพ้องลดต้นทุนชั่วคราวด้วยวิธีปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานที่ราคาถูกลง ไม่แตะเงินกองทุนน้ำมัน
นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการระยะสั้นที่ออกมาจะไม่ทำให้เกิดการผ่องถ่ายหรือผลักภาระด้านราคาให้กับประชาชน โดยรัฐบาลจะพิจารณาแหล่งเงินทุนอย่างเหมาะสมที่จะนำมาใช้ช่วยเหลือผู้ประกอบการ ซึ่งจะต้องรอให้รัฐมนตรีของทั้ง 2 กระทรวงเห็นชอบก่อน จากนั้นจึงจะนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า(29 เม.ย.)
"หลักการของ 2 กระทรวงเห็นตรงกัน คือไม่ได้มุ่งแก้ไขปัญหาให้ต้นทุนน้ำมันของผู้ประกอบการลดลงอย่างถาวร แต่มุ่งหวังให้ต้นทุนการใช้น้ำมันของผู้ประกอบการลดลงด้วยการปรับเปลี่ยนกรรมวิธีในการทำงาน เช่น การใช้น้ำมันที่ถูกลง เช่น ก๊าซเอ็นจีวี ซึ่งจะใช้เวลาสั้นๆ รองรับการบรรเทาผลกระทบของราคาน้ำมัน" นายศุภรัตน์ กล่าว
ขณะที่นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า มาตรการให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาผลกระทบจากปัญหาน้ำมันแพงดังกล่าว คงไม่ใช้การลดการนำเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะขณะนี้เงินในกองทุนฯ อยู่ในระดับที่ต่ำเพียง 3 พันล้านบาท อีกทั้งยังมีแผนที่จะนำไปใช้อยู่แล้ว
พร้อมเห็นว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในขณะนี้สาเหตุสำคัญมาจากการปั่นราคาของนักเก็งกำไร โดยราคาน้ำมันที่แท้จริงควรอยู่ในระดับ 95 เหรียญ/บาร์เรล แต่ปัจจุบันเกินไปถึง 20 เหรียญ/บาร์เรล โดยเชื่อว่าราคาน้ำมันคงจะไม่ปรับตัวสูงเกินไปกว่านี้แล้ว
--อินโฟเควสท์ โดย คลฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--