ดอลล์เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆที่โตเกียว หลังพุ่งรับยอดผู้ขอสวัสดิการว่างงานลดลง

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญอื่นๆที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้าวันนี้ (25 เม.ย.) หลังจากที่แข็งค่าขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาจากปัจจัยหนุนของแรงซื้อหลังจากที่ทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ร่วงลงเกินคาด
          นอกจากนี้ กระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ใกล้จะยุติวงจรการลดดอกเบี้ยยังช่วยหนุนให้เทรดเดอร์เข้าซื้อเงินดอลลาร์อย่างคึกคัก          
          โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาร่วงลงเกินคาด 33,000 ราย สู่ 342,000 รายสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3,000 ราย
          มิตซูรุ ไซโตะ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์โตไก โตเกียวกล่าวว่า "ความวิตกกังวลต่อวิกฤตสินเชื่อและราคาสินค้าโภคภัณฑ์แพงที่เริ่มแผ่วลงได้ทำให้ตลาดเงินเริ่มมีเสถียรภาพขึ้น ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่าเฟดอาจยุติวงจรการปรับลดดอกเบี้ยหลังจากที่จะลดดอกเบี้ยอีกครั้งในสัปดาห์หน้า"
           สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 07.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ระดับ 104.32 เยนต่อดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ 104.20-104.30 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่เงินยูโรเทรดกันที่ระดับ  1.5685 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ  1.5678 - 1.5688 ดอลลาร์ต่อยูโร
          ขณะเดียวกันดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีประจำเดือนเม.ย.ของสถาบันวิจัย Ifo ลดลงไปอยู่ที่ 102.4 จากระดับ 104.8 ในเดือนมี.ค. ซึ่งอยู่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 104.3 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวได้ฉุดรั้งมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจในเขตยูโรโซนได้รับผลกระทบจากสหรัฐ 
          นอกจากนี้ ผลสำรวจดังกล่าวยังได้จุดกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเขตยูโรโซนจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตสินเชื่อและอาจกดดันให้ธนาคารกลางยุโรป(ECB)ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย       
          นายจอห์น นูนาน นักวิเคราะห์จากธอมสัน/ไอเอฟอาร์ กล่าวว่า "เงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังจากนักลงทุนกระหน่ำเทขายเงินยูโรทันทีที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของ Ifo อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้คาดว่า ECB ใกล้ที่จะใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน"
          อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์ยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากยังขาดปัจจัยชี้นำที่ชัดเจน