เป๋าสตีลเล็งขายหุ้นในตปท.หวังระดมทุน $8.6 พันล้านเพิ่มกำลังการผลิตเหล็ก

          เป๋าสตีล กรุ๊ป คอร์ป บริษัทผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของจีนอาจดำเนินการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ลอนดอน หรือฮ่องกง เพื่อระดมทุนเป็นให้ได้ 6.0 หมื่นล้านหยวน (8.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อนำมาใช้ในการเพิ่มกำลังการผลิตเหล็กในจีน ซึ่งมีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่ขยายตัวเร็วที่สุดในโลก
          ซู เลเจียง ประธานของเป๋าสตีลกล่าวในการสัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า เป๋าสตีลอาจระดมทุน 3.0 หมื่นล้านหยวนผ่านการขายหุ้นเพื่อพัฒนาโครงการซานเจียง ทางตอนใต้ของมณฑลกวางตุ้ง โดยรัฐวิสาหกิจเหล็กรายนี้ซึ่งมีกำลังการผลิตเหล็กได้ 5.8% ของผลผลิตเหล็กในจีน จำเป็นต้องเพิ่มอัตราการผลิตเพื่อรองรับอุปสงค์จากผู้ผลิตรถยนต์และภาคธุรกิจต่อเรือที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น
          นายซูต้องการที่จะเพิ่มกำลังการผลิตของเป๋าสตีลขึ้นเป็น 2 เท่า หลังจากที่ราคาเหล็กของจีนพุ่งขึ้นเกือบ 2 เท่าตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งเป๋าสตีลกำลังหาลู่ทางลงทุนในเมืองถ่านหินหลังจากที่ราคาพุ่งขึ้น 3 เท่า และราคาสินแร่เหล็กเพิ่มขึ้น 65% 
          "เรากำลังพิจารณาช่องทางการเพิ่มทุนจากการเข้าจดทะเบียนเพื่อซื้อขายในตลาดหุ้นต่างประเทศเพื่อนำเงินที่ได้มาใช้พัฒนาโครงการซานเจียง" นายซูกล่าว "การระดมทุนเพื่อเพิ่มผลผลิตเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้เราต้องหาทางเข้าไปจดทะเบียนซื้อขายในต่างประเทศ" 
          ทั้งนี้ หุ้นเป๋าซาน ไอออน แอนด์ สตีล โค ซึ่งเป็นธุรกิจของเป๋าสตีลที่เทรดในตลาดหลักทรัพย์จีนพุ่งขึ้นสูงสุด 5.3% แตะระดับ 12.70 หยวน ซึ่งเหนือระดับที่พุ่งขึ้นในตลาดหุ้นดัชนี CSI 300 Index ที่ 1.7% 
          เป๋าสตีลได้รับการรับรองจากรัฐบาลเมื่อเดือนที่ผ่านมาให้ดำเนินการพัฒนาโครงการซานเจียงเพื่อผลิตเหล็ก  10 ล้านตันต่อปี ซึ่งจะทำให้เป๋าสตีลมีกำลังการผลิตเหล็กเพิ่มขึ้น 33% แตะที่ 40 ล้านตัน ขณะที่บริษัทผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดในโลกอย่างอาร์เคเลอร์มิตตัล ในลักเซมเบิร์ก มีกำลังการผลิตที่ 116 ล้านตันในปี 2550