วงการแบงก์ ประสานเสียง ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รอบ 31 พ.ค.นี้ คาดมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย อีก 0.25% ไปสู่ระดับ 2.00% แต่ไม่ฟันธงว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ เนื่องจากยังคงต้องรอดูแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อว่าจะเปลี่ยนแปลงไปจากที่ประเมินไว้หรอืไม่
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 31 พ.ค.นี้ คาดว่า กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายในรอบวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น มาอยู่ที่ระดับ 2.00% ท่ามกลางแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่เผชิญความเสี่ยงมากขึ้น ขณะที่แรงกดดันจากแนวโน้มนโยบายการเงินแบบตึงตัวของธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกเริ่มลดลง เนื่องจากธนาคารกลางหลัก เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มส่งสัญญาณหยุดขึ้นดอกเบี้ยในระยะอันใกล้
นอกจากนี้ เงินเฟ้อทั่วไปของไทยเดือนเม.ย.66 ลดลงมาแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือนที่ 2.67% สะท้อนแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อ่อนแรงลง ขณะที่แนวโน้มเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า คาดว่าจะยังคงมีทิศทางชะลอลงตามฐานที่สูงในปีก่อนหน้า ประกอบกับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ที่คาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับต่ำกว่า 90 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประเมินว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 25bp เป็น 2.00% ในการประชุมวันที่ 31 พ.ค. แม้เงินเฟ้อกำลังเป็นขาลง แต่การสื่อสารจากผู้ดำเนินนโยบายบ่งชี้ว่าต้องการ Normalize อีกสักระยะหนึ่ง
ส่วน Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย ประเมินว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือน พ.ค.นี้ สู่ระดับ 2.0% เพื่อรับมือกับแรงกดดันด้านราคาในหมวดพื้นฐาน ที่ยังอยู่ในระดับสูง อีกทั้งหากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแรง จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มได้อีก นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติมด้านต้นทุนพลังงานในระยะข้างหน้า
ด้านศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องอีก 3 ครั้ง ครั้งละ 25 BPS ในการประชุมเดือนพฤษภาคม สิงหาคม และกันยายน สู่ระดับ Neutral rate ที่ 2.5% ในไตรมาส 3 ในกรณีที่เศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องในปีนี้
พร้อมมองว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ต่อเนื่อง ประกอบกับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่แม้จะอยู่ในกรอบเป้าหมาย 1-3% ของ ธปท. แต่ยังมีความเสี่ยงด้านสูงจากการส่งผ่านต้นทุน และแรงกดดันด้านอุปสงค์ที่จะเกิดขึ้นในระยะข้างหน้า SCB EIC จึงคาดว่า กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องครั้งละ 25 BPS ไปสู่ระดับ Terminal rate ที่ 2.5% ในไตรมาส 3 ของปีนี้ จากนั้น จะคงไว้เพื่อให้กลไกดอกเบี้ยนโยบายส่งผ่านไปสู่ระบบเศรษฐกิจต่อไป
ทั้งนี้ หากแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเปลี่ยนแปลงไปจากที่ประเมินไว้ในปัจจุบัน กนง. อาจไม่สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องจนไปสู่ระดับ Neutral rate ได้ในช่วงวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นรอบนี้ แต่อาจต้องปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้เหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่เปลี่ยนไปแทน