ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.65 แข็งค่าเล็กน้อย ให้กรอบ 34.50-34.80 จับตา Flow-ตัวเลขศก.สหรัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 1, 2023 09:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.65 บาทดอลลาร์ แข็งค่าจากปิด ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.72 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทแข็งค่าเทียบท้ายตลาด เมื่อคืนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ย่อลง ด้านสกุลเงินในภูมิภาคส่วนใหญ่แข็งค่า

สำหรับปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตามวันนี้ คือ Flow จากต่างประเทศ ส่วนปัจจัยต่างประเทศ คืนนี้ต้องติดตามการรายงานตัว เลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทั้งดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน เดือนพ.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 34.50 - 34.80 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (31 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.83748% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 2.10596%

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 34.70000 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 139.38 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 139.81 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.0689 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0663 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.743 บาท/ดอลลาร์
  • เจ้าสัวสหพัฒน์ "นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา" มองบวกเศรษฐกิจไทยยังดี เผยการมีผู้นำประเทศเป็นคนรุ่นใหม่เกิดขึ้นทั่วโลก
ห่วงนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงของรัฐบาลใหม่ อาจทำนักลงทุนย้ายฐานการผลิตไปเวียดนาม
  • หอการค้าไทย เสนอประเด็นเร่งด่วนที่รัฐบาลใหม่จะต้องเร่งดำเนินการ 3 เรื่อง ได้แก่ 1. การเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้เร็ว
ที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเศรษฐกิจประเทศ 2. การเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศ การอำนวยความสะดวกใน
การลงทุน มีความขัดเจนในเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ การบริหารจัดการโครงสร้างพลังงานของประเทศ 3. เสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้
ประกอบการ และเอสเอ็มอี โดยต้องเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำได้ง่าย
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (31 พ.ค.)
หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้น สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าจะเป็นปัจจัย
สนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (31 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร
สหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาสภาคองเกรสสหรัฐเตรียมลงมติร่างกฎหมายปรับเพิ่มเพดานหนี้
  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 66.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ
5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. และให้น้ำหนักเพียง 33.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%
  • สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ มีมติผ่านร่างกฎหมายการขยายเพดานหนี้ ด้วยคะแนนเสียง 314 ต่อ 117 เสียง ซึ่งจะช่วยให้
รัฐบาลสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์
  • นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย.
หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน เพิ่มขึ้น 358,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.1 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. สวนทางกับที่
นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 9.375 ล้านตำแหน่ง หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน
  • นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 4 มิ.ย.
ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการประชุมในครั้งนี้ หลังจากนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียไม่
สนับสนุนให้มีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติม เนื่องจากเมื่อเดือนที่แล้ว สมาชิกบางประเทศเพิ่งประกาศปรับลดกำลังการผลิตโดย
สมัครใจ
  • เศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีศักยภาพในการเติบโตอย่างเหลือเฟือ โดยได้รับการสนับสนุนจาก
ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เช่น ผู้บริโภคดิจิทัลกว่า 460 ล้านราย ประชากรวัยหนุ่มสาวและมีทักษะด้านเทคโนโลยี ตลอดจนอัตราการเข้าถึง
อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มสูงขึ้น
  • ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ต้องติดตามวันนี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค. จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับ

สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนพ.ค. จากเอสแอนด์พี โกลบอล, ดัชนีภาคการ

ผลิตเดือนพ.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนเม.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จาก

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ