ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.76/77 แกว่งแคบจากช่วงเช้า รอตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐคืนนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 7, 2023 17:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.76/77 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาด เมื่อเช้าที่ระดับ 34.74 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.70 - 34.81 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันมีการเปิดเผยยอดส่งออก-นำเข้า และดุลการค้า จากจีน ซึ่งออกมาผิดจากคาดการณ์ค่อนข้างมาก โดยส่งออก - 7.5% ส่วนนำเข้า -4.5% ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย แต่ยังวิ่งในกรอบ ขณะที่สกุลเงินหยวนยังทรงตัว

สำหรับคืนนี้ต้องติดตามตัวเลขจากทางสหรัฐฯ ทั้งยอดนำเข้า-ส่งออก และดุลการค้าเดือนเม.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.65 - 34.90 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 139.31/34 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 139.34 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.0692/0696 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0693 ดอลลาร์/ยูโร
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,779.79 ลบ. (SET+MAI)
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,533.21 จุด เพิ่มขึ้น 4.67 จุด (+0.31%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 50,565 ล้านบาท
  • ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดย
คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.0-3.5% จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยคาดว่าทั้งปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยถึง 30
ล้านคน ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการจ้างงาน นอกจากนี้ รายได้ภาคเกษตร และเกษตรอุตสาหกรรมยังขยายตัว ทำให้ในภาพรวมผู้บริโภคมี
ความเชื่อมั่นที่ดีขึ้น มีการใช้จ่าย และการบริโภคมากขึ้น
  • คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ระบุอยากให้การจัดตั้งรัฐบาลเสร็จโดยเร็ว เพื่อจะได้ไม่เกิดภาวะ
สุญญากาศ อยากให้สถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจนมากกว่านี้ ภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางไม่เกิดการสะดุด แต่เรื่องนี้เป็นประเด็น
ที่ กกร. ได้ประเมินผลกระทบไว้ในคาดการณ์อยู่แล้ว หากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าออกไปกว่าที่ควรจะเป็น คงบอกระดับความเสียหายไม่ได้
แต่ผลที่เกิดขึ้นจะสะท้อนให้เห็นจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ
  • หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมร่วมกันของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลว่า ทั้ง 8
พรรคเห็นพ้องกันว่าไทม์ไลน์ในการจัดตั้งรัฐบาลน่าจะขยับเร็วขึ้น 2-3 สัปดาห์ หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่าจะทำ
งานรับรองส.ส. ให้ได้ 95% โดยเร็วที่สุด ดังนั้น ทุกพรรคจะต้องเตรียมความพร้อมในการทำงาน เรื่องนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภา โดย
เฉพาะการเปลี่ยนผ่านงบประมาณเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้ประชาชน
  • Krungthai COMPASS ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอลงต่อเนื่อง จากราคาพลังงานที่อยู่ในระดับต่ำกว่าปีก่อน
ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กน
ง.) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือน ส.ค. นี้ หลังจากได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกันทั้งหมด 150bps สู่ระดับ 2.0% ต่อปี อีก
ทั้งเพื่อรอดูความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาล และนโยบายทางเศรษฐกิจ ที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า
  • องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เปิดเผยในวันนี้ (7 มิ.ย.) ว่า เศรษฐกิจโลกปีหน้าจะ
ปรับตัวขึ้นในระดับปานกลางเท่านั้น เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง จะเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างเต็มรูป ซึ่ง
บั่นทอนแรงกระตุ้นจากเงินเฟ้อที่ลดลง OECD คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะเติบโตขึ้น 2.7% ในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่เคยคาดการณ์เอาไว้
ก่อนหน้านี้ในเดือนมี.ค. ว่าจะเติบโต 2.6%
  • สำนักงานศุลกากรจีน รายงานว่า ยอดส่งออกของจีนร่วงลง 7.5% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ
3 เดือน เนื่องจากความต้องการสินค้าจีนในตลาดโลกชะลอตัวลงซึ่งรวมถึงสมาร์ตโฟน นอกจากนี้ ยอดส่งออกเดือนพ.ค. ยังร่วงลงรุนแรง
กว่าที่นักวิเคราะห์ของรอยเตอร์คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.4% ส่วนยอดนำเข้าเดือนพ.ค. ลดลง 4.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งน้อยกว่าที่
นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 8% และเป็นการปรับตัวลงน้อยกว่าในเดือนเม.ย. ที่ลดลง 7.9%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ